แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 17
1
เด็กที่มีปัญหาสุขภาพฟันแบบไหน ที่ควรเข้ารับการจัดฟันเด็ก

สุขภาพปากและฟัน มีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นมีมากมายมีผลกระทบกระเทือนต่อภาวะโภชนาการของเด็ก ซึ่งล้วนแล้วแต่สามารถป้องกันได้เกือบทั้งสิ้น การดูแลสุขภาพฟันในเด็กถือเป็นเรื่องที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่ดูแลเอาใจใส่ให้มาก ควรปลูกฝังให้เด็กฝึกหัดแปรงฟันอย่างถูกวิธี หมั่นตรวจฟันลูกหรือหัดให้ลูกตรวจฟันด้วยตนเองทุก ๆ วันหลังแปรงฟัน และควรพาไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟันอย่างน้อย ปีละ 1 ครั้ง เพื่อสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี นอกจากนี้สุขภาพช่องปากและฟัน สามารถดูแลรักษาและบำรุงได้ด้วยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผัก ผลไม้สด และนมสด เพื่อที่จะได้กระตุ้นขากรรไกรของเด็กให้เจริญเติบโตได้สัดส่วน และควรจะให้เด็กลดการกินลูกอม ขนมหวานหรืออาหารที่เป็นการทำลายฟันด้วย ในปัจจุบันวงการทันตกรรมได้มีการพัฒนา โดยเด็กสามารถจัดฟันได้เหมือนผู้ใหญ่ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังมีฟันน้ำนมอยู่ก็ตาม เพราะเป็นการแก้ปัญหาฟันผิดปกติของเด็ก ๆ โดยไม่ต้องรอให้โต โดยช่วยให้สุขภาพฟันดี และรองรับการขึ้นของฟันแท้ในอนาคตได้ด้วย

โดยการ จัดฟันในเด็ก สามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่ตอนที่เด็กอายุ 6-7 ขวบ พ่อแม่ผู้ปกครองควรนำเด็ก ๆ อายุต่ำว่า 10 ปี มาตรวจกับทันตแพทย์ผู้ทำการจัดฟันได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องรอจนถึงวัยรุ่นเพราะเป็นช่วงที่ฟันกำลังพัฒนาและขากรรไกรกลังเจริญเติบโต และถ้าตรวจพบปัญหาฟันซ้อน การสบฟันผิดปกติ จะสามารถแก้ไขได้ง่ายมากกว่าการจัดฟันตอนเป็นผู้ใหญ่แล้ว ข้อดีของการจัดฟันในเด็ก ก็คือ ทำให้การขึ้นของฟันแท้ สามารถขึ้นได้อย่างถูกต้อง และจะไม่มีความผิดปกติในการขึ้นของฟันแท้ ทั้งยังสามารถช่วยแก้ไขปัญหา ความผิดปกติของโครงหน้าได้อีกด้วย พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะหมั่นดูแล สังเกตความผิดปกติของฟันของเด็กอย่างสม่ำเสมอ หากมีความผิดปกติหรือสัญญาณที่บ่งบอกว่า เด็กมีปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน ควรรีบพาไปพบทันตแพทย์เพื่อทำการแก้ไข ที่คลินิกเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของสุขภาพช่องปากของเด็ก และยังมีบริการการจัดฟันในเด็ก ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาฟันของเด็กได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้เด็กเติมโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีความมั่นใจในรอยยิ้มและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่

สำหรับสัญญาณที่บ่งบอกว่า เด็กควรเข้ารับการจัดฟันเพื่อแก้ไขปัญหาความผิดปกติ คือเด็กที่มีปัญหา ยกตัวอย่างเช่น เด็กที่มีปัญหาฟันหน้ายื่น เพราะปัญหาดังกล่าว ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการแตกหักของตัวฟัน เมื่อเกิดอุบัติเหตุ เช่น หกล้ม ตกบันได ซึ่งอาจจะได้รับอันตรายต่อสุขภาพฟันอย่างมาก หากเกิดอุบัติเหตุ

และเด็กที่มีปัญหาการที่ฟันสบกันผิดปกติ เพราะอาจทำให้ขากรรไกรเติบโตแบบไม่สมดุลกัน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการขึ้นของฟันแท้ได้ เด็กที่มีปัญหาช่องฟันห่าง เพราะช่วยปรับให้ซี่ฟันอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง และง่ายต่อการขึ้นของฟันแท้ เด็กที่มีปัญหาในเรื่องของขากรรไกรไม่ได้สัดส่วนกับหน้า เพราะเจริญเติบโตผิดปกติ

การกลืนอาหารผิดปกติ นอกจากนี้การจัดฟันในเด็กยังสามารถครอบคลุมไปถึงปัญหาพฤติกรรมของเด็ก คือ

    เด็กที่ดูดนิ้ว
    กัดเล็บ
    กัดสิ่งของเป็นประจำ
    นอนหายใจทางปาก

ซึ่งการจัดฟันก็สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ด้วย หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจให้บุตรหลานของท่าน เข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำหรือพาบุตรหลานของท่านเข้ามาตรวจประเมินช่องปากก่อนได้ จากทางคลินิก ทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดฟันในเด็ก ยินดีให้คำปรึกษา เพื่อให้บุตรหลานของท่านได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อปลูกฝังให้เด็กรู้จักรักษาความสะอาดและใส่ใจสุขภาพช่องปากและฟันด้วย



2
ซ่อมบำรุงอาคาร: ตำแหน่งที่เหมาะแก่การติดกล้องวงจรปิด !

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หลายบ้านมีการใช้เทคโนโลยีในการสร้างความอุ่นใจให้กับบ้านของตัวเอง นั่นก็คือ มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อที่จะได้ตรวจดูบ้านของตัวเองได้ เวลาที่เราไม่อยู่บ้าน ซึ่งในสมัยนี้ กล้องวงจรปิดเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมมากในเรื่องความปลอดภัย ไม่เพียงแต่ติดตั้งในอาคารสถานที่ต่างๆ แต่คนนิยมติดตั้งภายในที่พักอาศัยด้วย โดยเฉพาะบ้านไหนที่มีเด็ก ก็มักจะติดตั้งไว้เพื่อความปลอดภัย โดยกล้องวงจรปิด เป็นเครื่องมือป้องกันการโจรกรรม การทำลายทรัพย์สินและเหตุร้ายอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี มันไม่เพียงแต่ช่วยในการป้องกันทรัพย์สินโดยบันทึกภาพฟุตเทจแต่ยังลดเหตุร้ายที่สามารถเกิดขึ้นได้

การที่สามารถเห็นภาพผ่านกล้องวงจรปิดช่วยในการจับภาพผู้ก่อเหตุร้ายและลดโอกาสในการก่อเหตุใดๆอีกด้วย บ้านที่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด ส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เพื่อจับตาดูเด็กและผู้สูงอายุ ด้วยระบบกล้องวงจรปิดภายในบ้านทำให้คุณสามารถตรวจสอบความปลอดภัยของเด็กและคนสูงอายุได้ ในขณะที่อยู่นอกบ้าน นอกจากนี้ บ้านไหนที่มีแม่บ้าน ก็ยังสามารถดูแม่บ้านได้ให้แน่ใจไม่มีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้น แต่ในตำแหน่งไหนละที่เหมาะสมที่จะติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อที่จะได้ตรวจดูบริเวณบ้านได้อย่างทั่วถึง วันนี้ทางเราจะมาแนะนำการติดตั้งกล้องวงจรปิด ซึ่งทางเราก็มีบริการในการติดตั้งกล้องวงจรปิดด้วยเช่นกัน เพื่ออำนวยความสะอาดและสร้างความสบายใจให้กับคุณได้ โดยมีช่างผู้เชี่ยวชาญและมีความน่าเชื่อถือ คอยให้คำแนะนำ หากสนใจติดตั้งกล้องวงจรปิด

สำหรับตำแหน่งการติดตั้งกล้องที่เราจะมาพูดถึงกัน ก็ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างในการติดตั้ง เช่น การติดตั้งในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นได้อย่างครอบคลุมพื้นที่ คือสามารถมองเห็นพื้นที่ในบริเวณที่ต้องการได้มากที่สุดนั่นเอง เช่น หากเราต้องการติดกล้องวงจรปิดในบริเวณบ้าน ควรเลือกจุดที่สามารถมองเห็นได้ครอบคลุมบริเวณมากที่สุด เพื่อที่จะสามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวในมุมกว้าง และจับภาพได้ดีแม้จะมีการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็ตาม หรือหากต้องการติดตั้งในบริเวณภายนอกอาคาร ก็ถือว่าเป็นอีกจุดที่ควรมีการติดตั้งเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากการติดตั้งกล้องภายนอกอาคาร จะสามารถเตือนภัยได้ล่วงหน้าในกรณีที่เกิดการบุกรุก

ในปัจจุบันมีกล้องวรจรปิดหลายรุ่นที่สามาถส่งสัญญาณแจ้งเตือนมายังมือถือเมื่อตรวจจับพบการเคลื่อนไหว ทำให้เราสามารถป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ ในกรณีที่ไม่สามารถยับยั้งได้ทัน เราก็ยังมีโอกาสที่จะได้ภาพของคนร้ายเมื่อเดินทางออกจากที่เกิดเหตุ ซึ่งอาจถอดเครื่องปกปิดตัวเองออก เช่น หมวก หรือหน้ากาก ซึ่งสามารถทำให้ได้ใบหน้าของผู้ร้ายมา หรืออาจจะสามารถบันทึกภาพยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการติดตามตัวผู้ร้ายต่อไป ทั้งนี้ กล้องวงจรปิดไม่ควรติดตั้งอยู่ต่ำจนเกินไป เพราะอาจเสี่ยงต่อการถูกขโมย และการทุบทำลาย จึงควรติดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สูงพอสมควรเพื่อให้ได้ภาพในมุมที่กว้างขึ้น

นอกจากนี้ เราจะต้องคำนึงในเรื่องของแสงด้วย ในตำแหน่งที่ติดตั้งกล้องวงจรปิดไม่ควรเป็นบริเวณที่มีแสงตกกระทบที่หน้ากล้องโดยตรง เพราะอาจส่งผลต่อการจับภาพของกล้องได้ และการติดตั้งกล้องภายนอกอาคารก็ไม่ควรให้กล้องจับภาพไปยังส่วนที่เป็นท้องฟ้ามากเกินไป เพราะระบบการปรับภาพอัตโนมัติของกล้อง ที่ต้องการปรับภาพให้สมดุลกันนั้นอาจทำให้ส่วนอื่นของภาพดูมืดกว่าเดิมได้ จึงควรเลือกปรับมุมกล้องให้เหมาะสมนั่นเอง และนี่เป็นตำแหน่งในการเลือกตำแหน่งเพื่อติดตั้งกล้องวงจรปิด โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงมุมกล้องและสภาพบริเวณโดยรอบ เพื่อให้กล้องวงจรปิดสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น หากใครสนใจที่จะติดตั้งกล้องวงจรปิด อย่าลืมคำนึงถึงช่างที่จะเข้ามาทำการติดตั้งด้วยว่าจะต้องมีความน่าเชื่อถือ หรือใช้ช่างของบริษัทที่มีความเป็นมืออาชีพ สามารถตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์ของตัวคุณเอง

 หากสนใจจะติดตั้งกล้องวงจรปิด สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ เพราะเราเป็นผู้ให้บริการในเรื่องของความปลอดภัยของอาคารบ้านเรือน มีบริการติดตั้งระบบต่างๆภายในที่พักอาศัย ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้าต้นกำลังและระบบจ่ายไฟฟ้าภายในอาคาร ระบบสุขาภิบาล และระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบปรับอากาศ และหมุนเวียนอากาศ ระบบงานบำรุงรักษาโครงสร้างอาคาร ระบบป้องกันเพลิง และระบบสื่อสาร และกล้องวงจรปิด แถมยังสามารถวางแผนซ่อมบำรุงเชิงป้องกันที่เป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อให้ผลการบริหารจัดการของอาคารที่มีประสิทธิภาพ และอยู่ในงบประมาณที่สมเหตุสมผล ภายใต้ความปลอดภัยของลูกค้ามากที่สุด

3
สินค้า บริการอื่น ๆ / โรคมะเร็งปอด (Lung cancer)
« เมื่อ: 29 ธันวาคม 2024, 20:39:11 pm »
โรคมะเร็งปอด (Lung cancer)

มะเร็งปอด พบมากเป็นอันดับที่ 2 ของมะเร็งในผู้ชาย และอันดับที่ 4 ของมะเร็งในผู้หญิง พบมากในช่วงอายุ 50-75 ปี มะเร็งปอดมีอยู่หลายชนิด ได้แก่ มะเร็งปอดชนิดเซลล์เยื่อบุ (squamous cell carcinoma) ซึ่งเป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดและเกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ มะเร็งปอดชนิดเซลล์ต่อมเมือก (adenocarcinoma) ซึ่งพบในผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ และชนิด small cell carcinoma ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ พบได้น้อยกว่าชนิดอื่น แต่มีความร้ายแรงสามารถแพร่กระจายเร็ว

สาเหตุ

ร้อยละ 80-90 เกิดจากการสูบบุหรี่ ยิ่งสูบมากและนานก็ยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้มากขึ้น ร้อยละ 5 เกิดจากการรับควันบุหรี่จากผู้อื่น

อาจเกิดจากการสัมผัสสารใยหิน (แอสเบสตอส) จากการทำงาน เช่น การก่อสร้างอาคาร การทำงานที่เกี่ยวกับผ้าเบรก คลัตช์ ฉนวนกันความร้อน อุตสาหกรรมสิ่งทอ เหมืองแร่ เป็นต้น ซึ่งใช้เวลาสัมผัสนาน 15-35 ปีกว่าจะเป็นมะเร็งปอด ถ้าสูบบุหรี่ด้วยก็ยิ่งเสี่ยงมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากการสัมผัสเรดอน (radon ซึ่งเป็นก๊าซกัมมันตรังสีที่เกิดจากการสลายตัวของแร่ยูเรเนียมในหินและดิน กระจายอยู่ในอากาศและน้ำใต้ดิน อาจพบตามเหมืองใต้ดิน อาคารที่ใช้วัสดุก่อสร้างที่ปนเปื้อนก๊าซนี้) มลพิษทางอากาศ (เช่น ควันพิษจากรถยนต์) โรงงานถลุงเหล็กนิกเกิล โครเมียม แคดเมียม โรงงานน้ำมัน ดินน้ำมัน เขม่าจากโรงงาน การดื่มน้ำที่มีสารหนูเจือปน การกินผักและผลไม้น้อย

บางครั้งพบมะเร็งปอดในผู้ป่วยที่มีแผลเป็นในปอดจากโรคปอด เช่น วัณโรคปอด ถุงลมปอดโป่งพอง ภาวะเยื่อพังผืด (fibrosis) ในปอด เป็นต้น

บางรายอาจเป็นมะเร็งปอดโดยไม่มีประวัติการสูบบุหรี่หรือการสัมผัสสารก่อมะเร็งมาก่อนก็ได้

ผู้ที่มีพ่อแม่พี่น้องเป็นมะเร็งปอดมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้มากกว่าปกติ

อาการ

ระยะแรกเริ่มจะไม่มีอาการ ต่อมาจะมีอาการไอเรื้อรัง อาจไอมีเลือดปนเสมหะ หรือไอออกเป็นเลือดสดจำนวนมาก (หากมะเร็งลามถูกหลอดเลือด) หายใจมีเสียงดังวี้ด (หากหลอดลมถูกอุดกั้นจากก้อนมะเร็ง) หรือเจ็บหน้าอกเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุชัดเจน (หากลามไปที่เยื่อหุ้มปอด หรือกระดูกซี่โครง) อาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรคหัวใจขาดเลือด

ต่อมาผู้ป่วยมักมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด หายใจหอบเหนื่อย (จากภาวะมีน้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด) และอาจมีปอดอักเสบแทรกซ้อน

ภาวะแทรกซ้อน

มะเร็งปอดที่เป็นรุนแรงอาจทำให้มีอาการเจ็บปวดมาก หายใจหอบเหนื่อย ไอออกเป็นเลือดรุนแรง

หากมะเร็งลามไปยังอวัยวะข้างเคียง ก็อาจมีอาการเสียงแหบ กลืนลำบาก ปวดแขน แขนชาและอ่อนแรง หนังตาตกและรูม่านตาหดเล็กข้างหนึ่ง มีอาการบวมที่ใบหน้า คอ และหน้าอกส่วนบน หัวใจเต้นผิดจังหวะ

ในระยะท้าย มะเร็งมักจะลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองที่คอหรือแอ่งไหปลาร้า และอวัยวะต่าง ๆ เช่น สมอง (มีอาการปวดศีรษะ สับสน ชัก) ตับ (ตับโต ตาเหลืองตัวเหลือง ท้องมาน) ไขสันหลัง (ขาชาและอ่อนแรง) กระดูก (ปวดกระดูก) เป็นต้น

บางครั้งผู้ป่วยอาจมาปรึกษาแพทย์ด้วยอาการที่มะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะเหล่านี้มากกว่าอาการของมะเร็งปอดโดยตรง (ไอเรื้อรัง ไอเป็นเลือด)

การวินิจฉัย

แพทย์จะทำการวินิจฉัยโดยการเอกซเรย์ปอด การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ การตรวจหาเซลล์มะเร็งในเสมหะ การใช้กล้องส่องตรวจหลอดลม (bronchoscopy) การใช้เข็มเจาะเนื้อปอดนำไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ (needle biopsy)

หากพบว่าเป็นมะเร็งก็จะทำการตรวจเพิ่มเติมด้วยวิธีต่าง ๆ (เช่น เอกซเรย์, อัลตราซาวนด์, เอกซเรย์คอมพิวเตอร์, การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า-MRI, การตรวจเพทสแกน- PET scan เป็นต้น) เพื่อประเมินว่าเป็นมะเร็งระยะใด

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การรักษาด้วยการผ่าตัด รังสีบำบัด เคมีบำบัด อิมมูนบำบัด และ/หรือการใช้ยาแบบจำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง (targeted therapy drugs) ทั้งนี้ขึ้นกับชนิดและระยะของมะเร็งที่พบ

เนื่องจากมะเร็งปอดมักจะลุกลามเร็วและวินิจฉัยได้ในระยะที่มะเร็งแพร่กระจายออกนอกปอดแล้ว มีอัตราการรอดชีวิตเกิน 5 ปีต่ำกว่าร้อยละ 10 (โดยเฉพาะอย่างยิ่งชนิดที่เรียกว่า small cell carcinoma ซึ่งพบได้ประมาณร้อยละ 25 ของมะเร็งปอดทั้งหมด มีอัตราการรอดชีวิตเกิน 5 ปีประมาณร้อยละ 2) การรักษาจึงเป็นเพียงการประทังอาการซึ่งมักจะมีชีวิตอยู่ได้เพียงระยะหนึ่ง

นอกจากในรายที่ตรวจพบในระยะแรก ๆ หรือเป็นชนิดที่ลุกลามช้าหรือตอบสนองต่อการรักษา ก็อาจอยู่ได้นานหลายปี (มีอัตราการรอดชีวิตเกิน 5 ปีประมาณร้อยละ 50-90)

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น ไอหรือเจ็บหน้าอกเรื้อรังเกิน 2 สัปดาห์ ไอเป็นเลือด เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เป็นต้น ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็งปอด ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    หลีกเลี่ยงการซื้อยามากินเอง
    หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช โปรตีนที่มีไขมันน้อย (เช่น ปลา ไข่ขาว เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง)
    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหาทางผ่อนคลายความเครียด
    ออกกำลังกายและทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งงานอดิเรกที่ชอบ และงานจิตอาสา เท่าที่ร่างกายจะอำนวย
    ทำสมาธิ เจริญสติ หรือสวดมนต์ภาวนาตามหลักศาสนาที่นับถือ
    ถ้ามีโอกาสควรหาทางเข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน หรือกลุ่มมิตรภาพบำบัด
    ผู้ป่วยและญาติควรหาทางเสริมสร้างกำลังใจให้ผู้ป่วย ยอมรับความจริง และใช้ชีวิตในปัจจุบันให้ดีและมีคุณค่าที่สุด
    ถ้าหากมีเรื่องวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคและวิธีบำบัดรักษา รวมทั้งการแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร ยาหม้อ ยาลูกกลอน การนวด ประคบ การฝังเข็ม การล้างพิษ หรือวิธีอื่น ๆ) ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ และทีมสุขภาพที่ดูแลประจำและรู้จักมักคุ้นกันดี

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการไม่สบายหรืออาการผิดปกติ เช่น มีไข้ อ่อนเพลียมาก หอบเหนื่อย หายใจลำบาก ชัก แขนขาชาหรืออ่อนแรง ซีด มีเลือดออก ปวดท้อง ท้องเดิน อาเจียน เบื่ออาหารมาก กินไม่ได้ ดื่มน้ำไม่ได้ เป็นต้น
    ขาดยาหรือยาหาย
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผลเต็มที่ แต่อาจลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดด้วยการปฏิบัติ ดังนี้

    ไม่สูบบุหรี่
    เลิกบุหรี่สำหรับผู้ที่เคยสูบ หากสามารถเลิกได้ก็จะลดความเสี่ยงลงได้มาก แม้จะสูบมานานก็ตาม
    หลีกเลี่ยงการสัมผัสควันบุหรี่ สารใยหิน มลพิษทางอากาศ และรังสีเรดอน (radon)
    หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ
    กินผักและผลไม้ให้มาก ๆ

ข้อแนะนำ

1. มะเร็งปอดแม้จะพบบ่อยในผู้ที่สูบบุหรี่ แต่ผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ก็มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้ ดังนั้นทุกคนไม่ว่าจะมีประวัติสูบบุหรี่หรือไม่ก็ตาม หากมีอาการที่น่าสงสัย เช่น ไอหรือเจ็บหน้าอกเรื้อรังเกิน 2 สัปดาห์ ไอเป็นเลือด เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เป็นต้น ควรปรึกษาแพทย์

2. ปัจจุบันยังไม่มีวิธีตรวจหามะเร็งปอดระยะแรกที่ได้ผลดี ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่รอให้มีอาการแสดงชัดแล้วค่อยไปพบแพทย์ให้ตรวจรักษา ซึ่งมักจะเป็นระยะที่มะเร็งมีการลุกลามแล้ว และรักษาได้ผลไม่สู้ดี ดังนั้นควรหาทางป้องกันด้วยการไม่สูบบุหรี่หรือเลิกบุหรี่ และหมั่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรง

3. ปัจจุบันมีวิธีบำบัดรักษาโรคมะเร็งใหม่ ๆ ที่อาจช่วยให้โรคหายขาดหรือทุเลา หรือช่วยให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ผู้ป่วยจึงควรติดต่อรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคมะเร็ง มีความมานะอดทนต่อผลข้างเคียงของการรักษาที่อาจมีได้ อย่าเปลี่ยนแพทย์ เปลี่ยนโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น หากสนใจจะแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร หรือวิธีอื่น ๆ) ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ และทีมสุขภาพที่ดูแลประจำและรู้จักมักคุ้นกันดี

4
บ้านโครงการใหม่ 2024: อณาสิริ รังสิต-คลอง 3 (Anasiri Rangsit-Klong 3)
เริ่มต้น 4.29 ลบ. – 7 ลบ.

อณาสิริ รังสิต-คลอง 3 (Anasiri Rangsit-Klong 3)
อณาสิริ รังสิต – คลอง 3 ฤดูแห่งความสุขมีได้ทุกวัน บ้าน ที่ออกแบบอย่างเรียบง่าย แต่เปี่ยมไปด้วยองค์ประกอบที่ช่วยเติมเต็มความอบอุ่น และความสุขให้กับทุกคนในครอบครัวกับบ้าน สไตล์ Modern Japanese ที่โดดเด่นด้วยการวาง Fa?ade บ้านให้ไม่ซ้ำกัน พร้อมฟังก์ชันพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อวิถีชีวิตยุคใหม่ เหมือนได้ยกหมู่บ้านชาวญี่ปุ่นมาไว้ที่นี่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน นี่แหละ ชีวิตที่สมดุลที่หลายคนมองหา

รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ อณาสิริ รังสิต-คลอง 3 (Anasiri Rangsit-Klong 3)
เจ้าของโครงการ แสนสิริ
แบรนด์ย่อย อณาสิริ
ราคา เริ่มต้น 4.29 ลบ. – 7 ลบ.
ประเภทบ้าน บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด
ลักษณะทำเล โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
พื้นที่โครงการ 57 ไร่ 3 งาน 21 ตร.ว.
จำนวนบ้าน 286 หลัง
แบบบ้านทั้งหมด 3 แบบ
เนื้อที่บ้าน ตั้งแต่ 30 ถึง 70 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย ตั้งแต่ 134 ถึง 177 ตร.ม.
จำนวนชั้น 2 ชั้น
หน้ากว้าง โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
จำนวนห้องนอน ตั้งแต่ 3 ถึง 4 ห้อง
จำนวนที่จอดรถ 2 คัน
สาธารณูปโภค สวนสาธารณะ, คลับเฮาส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, รปภ., CCTV, อื่นๆ (พื้นที่ผักสวนครัว, Event Lawn, Kids room), สนามเด็กเล่น

สถานที่ใกล้เคียง
โซน ปทุมธานี, คลองหลวง, ธัญบุรี, ลำลูกกา
ที่ตั้ง ถนนโยธาธิการคูคต-คลองหลวง (เลียบคลองสาม) ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120

ขนส่งสาธารณะ
ใกล้ทางด่วน (ทางยกระดับอุตราภิมุข)
ใกล้ถนนสายหลัก (ถนนโยธาธิการคูคต – คลองหลวง)

สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ห้างสรรพสินค้า
Big C รังสิต-คลอง 3 : 0.6 กม.
Tara Avenue รังสิต-คลอง 3 : 5.6 กม.
Pure Place : 6.7 กม.
Lotus’s รังสิต : 7.3 กม.
Market Village รังสิต : 7.6 กม.
Major Cineplex รังสิต : 10 กม.
Future Park รังสิต / Zpell : 10 กม.

สถานศึกษา
รร.สารสาสน์วิเทศคลองหลวง 3 กม.
รร.โชคชัยรังสิต 6 กม.
ม.กรุงเทพ 8.9 กม.
ม.ธรรมศาสตร์ 9.2 กม.

สถานพยาบาล
รพ.บางปะกอก รังสิต 2 : 6.7 กม.
รพ.เปาโล รังสิต : 10.6 กม.
รพ.ปทุมเวช : 11.5 กม.
รพ.แพทย์รังสิต : 13.2 กม.

ปีที่สร้างเสร็จ
โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

5
เที่ยวพิษณุโลก 1 วัน ชมพระราชวังจันทน์ กินก๋วยเตี๋ยวห้อยขา เที่ยววัดไหว้พระวัดใหญ่-วัดนางพญา

นนี้ เรียกว่า One Day Trip คือ วันเดียวเที่ยวเพลิน ช่วงสายๆ ผมเดินทาง มาถึงเมืองพิษณุโลก วันนี้ตั้งใจจะมาเที่ยวชม พระราชวังจันทน์ ซึ่งเป็น สถานที่เสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือเรียกว่า สถานที่เกิดของพระองค์ดำ สมัยที่พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งอุปราช ก็เป็นสถานที่ประทับ พระราชวังนี้ตั้งอยู่ริมน้ำน่าน อยู่เยื้องๆกับ วัดใหญ่ หรือวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร

          ตัวอาคารของพระราชวังจันทน์ ไม่มีแล้ว มีแต่ร่องรอยขอบฐานรั้วและฐานของอาคารวัง เพราะเหตุว่ามีการทรุด มีทับถมมานาน และมีการสร้างโรงเรียนชายหรือโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม ในพื้นที่พระราชวังจันทน์ ปี พ.ศ. 2536 กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนบริเวณวังจันทน์เป็นโบราณสถาน จากที่มีการขุดพบร่องรอยพระราชวังจันทน์ ทำให้ต้องย้ายโรงเรียนชาย ไปบริเวณบึงแก่งใหญ่ แล้วทำการบูรณะฟื้นฟู มีการจัดทำพิพิธภัณฑ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ให้บริการเข้าชมฟรี

          ห้องจัดแสดงทำได้ดี เป็นอาคารหลักในศูนย์ประวัติศาสตร์พระราชวังจันทน์ ในห้องจัดแสดงเป็นห้องปรับอากาศ แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและพระราชวงศ์ น่าเรียนรู้ครับ ผมชมได้สักพักใหญ่ ก็ออกมานอกห้องจัดแสดง เดินไปทางด้านหลังขวามือของอาคาร จะเป็นศาลสมเด็จพระนเรศวรฯ ก็ไปทำสักการะพระองค์ท่าน เพื่อสิริมงคล ด้านข้างของศาล จะเห็นร่องรอยพระราชวังจันทน์ ผมหลับตาลง ทำใจสงบนิ่ง ลองรำลึก จินตนาการให้เห็นพระราชวัง ความยิ่งใหญ่ในอดีต ไม่ไหวขนลุก (แกกแรง) ไปทัศนาชมจุดอื่นดีกว่า

          ขับรถไปทางปีกซ้ายของอาคารแสดง เป็น วัดวิหารทอง อยู่ทางทิศใต้ของ พระราชวังจันทน์ จะเป็นเจดีย์ประธานที่มีรูปแบบเป็นพระปรางค์ ในสมัยอยุธยาตอนต้น ซึ่งปัจจุบันนั้น เหลือเพียงแค่ส่วนฐานเขียงและฐานบัวลูกฟัก สันนิษฐานว่าเคยเป็นที่ประดิษฐานพระอัฏฐารส ที่ปัจจุบันได้ประดิษฐานอยู่ภายในอุโบสถวัดสระเกศนั่นเอง ก็เลยได้มีการจำลองพระพุทธรูปขนาดเท่าองค์จริงมาประดิษฐานไว้ในวิหารดั่งเดิม

          ส่วนอาคารนี้ เรียกว่า อาคารพระสวัสดิราช อยู่ด้านหน้าศูนย์ประวัติศาสตร์พระราชวังจันทน์ เป็นเรือนไม้ทรงปั้นหยา ตั้งอยู่ในพระราชวังจันทน์ จังหวัดพิษณุโลก ตามประวัติกล่าวว่า สร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อปี พ.ศ. 2456 สำหรับเป็นอาคารที่ทำการป่าไม้ภาคพิษณุโลก สร้างอยู่คู่กับ เรือนขุนพิเรนทรเทพ ผมชอบเรือนแบบนี้มากเลย ชอบๆๆๆ ผมหมดเวลาที่พระราชวังจันทน์ไปเกือบเที่ยง ต้องไปหาของกินสักหน่อย

          อยู่เยื้องๆ กับศูนย์ประวัติศาสตร์พระราชวังจันทน์ คนละฝั่งแม่น้ำ ผมขับรถวนไปทางวัดใหญ่ ขับเลาะมาตามแม่น้ำน่านเลยวัดมาหน่อย ก็จะเจอสองสามร้าน เลือกตามชอบครับ เรื่องรสชาติก็พอได้ ไม่ได้เทพ แต่เป็นสีสันของอาหาร ภาพรวมเรียกว่าให้ B+ ได้ครับ       
วัดใหญ่ หรือวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร

          วัดที่หลายๆท่าน มาแวะสักการะพระพุทธชินราช ซึ่งได้รับยกย่องว่าเป็นพระพุทธรูปงดงามที่สุดองค์หนึ่งในไทย ในวัดใหญ่ มีพระพุทธรูปสำคัญอีกหลายองค์ เช่น พระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา

วัดนางพญา แหล่งกำเนิดพระเครื่องดังในตำนาน นามว่า สมเด็จนางพญา เป็นหนึ่งใน พระชุดเบญจภาคี
          วัดอยู่ติดกับวัดใหญ่ เดินออกข้างรั้ววัดใหญ่ได้เลย ผมมาวัดนี้อยู่บ่อยๆ พุทธศิลป์งดงามไม่น้อย วัดนางพญานี้ เรียกว่าแปลก สิ่งปลูกสร้างมีลักษณะสถาปัตยกรรมสมัยเดียวกับวัดราชบูรณะ ต่างกันที่วัดนางพญาไม่มีพระอุโบสถมีแต่วิหาร

          วัดนางพญา ถือว่ามีพระเครื่องดัง คือ สมเด็จนางพญา เป็นหนึ่งใน พระชุดเบญจภาคี ซึ่งพระนางพญานั้นเป็นที่เลื่องลือถึงความศักดิ์สิทธิ์และมีชื่อเสียงในด้านเมตตามหานิยม โดยเฉพาะสำหรับสุภาพสตรี ผู้ชายก็มีได้นะ

6
ข้อเสียของการจัดฟันเด็ก

ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก ถือว่าเป็นเรื่องที่ผู้ปกครองแม่ควรเอาใจใส่ให้มากเป็นพิเศษ เพราะฟันน้ำนมของเด็กนั้น มีความสำคัญมาก เนื่องจากฟันน้ำนมคือเครื่องมือการรักษาช่องว่างตามธรรมชาติในขากรรไกร เพื่อกันพื้นที่ให้ฟันแท้ขึ้นมาได้ พ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่คิดว่าฟันน้ำนมไม่มีความสำคัญ หากเด็กต้องสูญเสียฟันน้ำนมหรือถอนออกก็คงไม่เป็นไร แต่ความจริงแล้ว หากต้องเสียฟันน้ำนมก่อนวัยอันควรเช่น ถ้าพ่อแม่พาบุตรหลานไปถอนฟันน้ำนมทิ้ง ก็อาจจะทำให้ฟันซี่อื่นๆ เคลื่อนตัวเข้ามาในช่องว่างระหว่างฟัน ทำให้ฟันแท้ที่ขึ้นมาอาจจะขาดพื้นที่และไม่สามารถงอกขึ้นมาได้ตามธรรมชาติ ซึ่งนี่อาจจะเป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดความผิดปกติของขากรรไกรและการสบฟันของเด็กได้

ดังนั้นพ่อแม่ผู้ปกครองควรจะหมั่นสังเกตบุตรหลานของท่านว่ามีการสบฟันที่ผิดปกติหรือไม่ ถ้าหากมีปัญหาดังกล่าว ก็ควรได้รับการตรวจจากทันตแพทย์เพื่อทำการแก้ไข สำหรับสัญญาณของความผิดปกติของการสบฟันนั้น ยกตัวอย่างเช่น ฟันซ้อนหรือฟันขึ้นผิดตำแหน่ง ฟันซ้อนเก ฟันสบลึก หรือเด็กมีพฤติกรรมการบดเคี้ยวอาหารได้ลำบากและชอบหายใจทางปาก ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นสัญญาณของการสบฟันที่ผิดปกติ พ่อแม่ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานของท่านถ้าพบทันตแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา โดยการรักษาการสบฟันที่ผิดปกตินั้น

มักนิยมใช้วิธีการเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพราะการจัดฟันในเด็ก สามารถช่วยทำให้เด็กมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม นอกจากนี้  ถ้าเด็กได้รับการรักษาด้วยการจัดฟัน ก็จะมีผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าการจัดฟันตอนโต แต่อย่างไรก็ตาม การจัดฟันในเด็กก็ยังมีข้อเสียนั้นก็คืออาจจะทำให้บุตรหลานของท่านใช้ชีวิตประจำวันได้ยากกว่าปกติ แต่ไม่ต้องกังวลในข้อนี้ เพราะถ้าหากเด็กปรับตัวที่จะอยู่ร่วมกับการใช้เครื่องมือการจัดฟันได้ ปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไป

 สำหรับวันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงข้อเสียของการจัดฟันในเด็ก ซึ่งอาจจะทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนมีความกังวลถึงผลเสียที่จะตามมา ถ้าหากลูกน้อยของท่านจัดฟันตั้งแต่ตอนเด็ก แต่ต้องบอกก่อนว่าการจัดฟันในเด็กนั้น เป็นการแก้ไขฟันที่มีประสิทธิภาพและก็มีข้อดีเช่นเดียวกัน เพราะจะทำให้เด็กรู้จักรักษาความสะอาดของช่องปากและฟันและตระหนักถึงปัญหาฟัน หากเราดูแลสุขภาพช่องปากและฟันไม่ดี สำหรับข้อเสียของการจัดฟันในเด็ก อย่างแรกเลยคืออาจทำให้เด็กไม่สามารถทำกิจกรรมที่มีการปะทะได้ เนื่องจากในวัยเด็ก อาจจะมีการเล่นกีฬาหรือร่วมกิจกรรมที่อาจจะมีการปะทะบ้าง ถือเป็นเรื่องที่มักจะพบเจอได้บ่อย

 ดังนั้น เด็กอาจจะต้องระมัดระวังในเรื่องของการเล่นกีฬาหรือการร่วมกิจกรรม เพราะอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ เนื่องจากมีเครื่องมือการจัดฟันอยู่ภายในช่องปาก ข้อเสียอีกอย่างหนึ่งก็คือในขณะที่เด็กมีเครื่องมือจัดฟันอยู่ภายในช่องปาก ก็อาจจะทำให้ทำความสะอาดฟันได้ยากและเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุได้ถ้าไม่ดูแลรักษาความสะอาดให้ดี และในขณะรับประทานอาหาร เศษอาหารอาจจะเข้าไปติดที่เหล็กจัดฟันได้ อาจจะทำให้เสียบุคลิกภาพได้ และเป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุและมีกลิ่นปาก ต่อมาการพูดหรือออกเสียงไม่ชัด ซึ่งในข้อนี้ถือเป็นปัญหาของเด็กหลายๆคนที่เข้ารับการจัดฟัน แต่ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะการพูดไม่ชัดจะเกิดขึ้นในระยะแรกหลังจากการจัดฟันและข้อเสียอีกอย่างหนึ่งก็คือเด็กอาจจะไม่ได้รับประทานอาหารได้อย่างหลากหลายมากนัก เพราะจะต้องเลือกรับประทานอาหารที่มีความอ่อนนุ่ม เพื่อลดปัญหาของการเสียหายของเครื่องมือจัดฟันนั่นเอง

ทั้งหมดนี้ก็ถือว่าเป็นข้อเสียของการจัดฟันในเด็กที่อาจจะกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเด็กได้ แต่ก็สามารถแก้ไขได้ หากเด็กปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด
หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจอยากให้บุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดฟันในเด็ก สามารถให้คำปรึกษาได้อย่างถูกต้อง ทำให้มั่นใจได้ว่า บุตรหลานของท่านจะมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

7
motor expo 2025: ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน รุ่นใหม่ปี 2024 กับกิจกรรม Dirt-Road-Track Media Experience 2024

Harley-Davidson จัดกิจกรรมเทสรถสุดมันส์ 3 รูปแบบ นับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันกับ DIRT-ROAD-TRACK EXPERIENCE (DRT) เปิดประสบการณ์ขี่ รุ่นปี 2024

ปีนี้สื่อมวลชนและลูกค้าจากหลากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งทีมงาน Motorbikeguru ได้เดินทางมาร่วมเปิดประสบการณ์ทดสอบรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson รุ่นปี 2024 รวมทั้งไลน์อัพรถจากตระกูล Grand American Touring ใหม่ล่าสุด

DRT จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ระหว่าง 21-22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ สนามพีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดชลบุรี หลังประสบความสำเร็จจาก 2 ครั้งแรกที่ผ่านมา โดยในปีนี้มีมาจากหลากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียอย่างเกาหลีใต้ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ไต้หวัน อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง อินเดีย และไทย ซึ่งมีทั้งสื่อมวลชน คอนเทนต์ครีเอเตอร์ และกลุ่มลูกค้าที่ผ่านการแข่งขันทดลองขับขี่มอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson จากช่องทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ทั้งสื่อมวลชนและผู้เข้าร่วมกิจกรรมต่างได้ทดสอบสมรรถนะหลากหลายไลน์อัพของ Harley-Davidson รุ่นปี 2024 ทั้งตระกูล Sport ,Cruiser ,Touring และ Adventure Touring กันตลอดวัน

กิจกรรมฯ เริ่มต้นด้วยการแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม แล้วเวียนสลับขี่ตามรูปแบบกิจกรรมกับ 3 รูปแบบที่แตกต่างกันตามชื่อ ได้แก่ ทางวิบาก (Dirt) บนถนน (Road) และ สนามแข่ง (Track) จากการนำของผู้ฝึกสอนมืออาชีพ ผู้เขียนจาก Motorbikeguru อยู่กลุ่มสื่อมวลชนสายจักรยานยนต์ไทยด้วยกัน โดยเริ่มต้นกับการขี่ออกถนนก่อนกับรถรุ่น Road Glide™ รุ่นปี 2024 ที่ขี่สบายนุ่มนวลเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงจากลำโพงชั้นดีที่ขับกล่อมไปตลอดทาง ก่อนจะสลับมาขี่ Fat Boy™ ที่ยังคงสเน่ห์ไม่เสื่อมคลาย ขี่ง่า ชิว และสนุกกับเส้นทางคดเคี้ยวได้สบาย

แต่ถ้าใช้ความเร็วสูงเกินไปก็ไม่ไหวเพราะตัวชนลมตลอด ... ช่วงที่ 2 หลังจากพักยาวด้วยสายฝนที่กระหน่ำลงแทร็คสนามพีระฯ ทำให้การขี่บนแทร็คต้องล่าช้าออกไป จนฝนหยุดแต่แทร็คก็ยังเจิ่งนองไปด้วยน้ำในหลายจุดทางทีมงานและเจ้าหน้าที่ได้รอเวลาและสำรวจแทร็คจนพอใจว่าขี่ต่อได้ผู้เขียนจึงออกไปขี่โดยเริ่มกับรุ่น Sportster™ S สายสปอร์ตรุ่นใหม่ที่ขี่สนุกและน่าจะคล่องตัวสุดในแทร็ค อย่างไรก็ตามหลายโค้งที่มีน้ำและรถใช้ยางเดิมทำให้การขี่ต้องลดความเร็วลงมาและระวังเรื่องการใช้ไลน์ อย่างไรก็ตามตัวรถก็ยังผ่านทุกโค้งของสนามไปโดยไม่มีอาการมากนักและไฮไลท์ต่อจาก Sportster™ S ก็คือ การขี่รุ่น CVO Road Glide™ ST แบกเกอร์สมรรถนะสูงที่ค่าตัวอยู่ที่ 3,153,500 บาท !!! เมือต้องมาขี่บนแทร็คเปียกชุ่มขนาดนี้ ย่อมทำให้รู้สึกเกรงไม่มากก็น้อย

อย่างไรก็ตามหลังจากพอคุ้นกับสภาพแทร็คเปียกก่อนหน้า และไปด้วยความระวังผ่านไป 1 รอบก็เริ่มขยับทำความเร็วได้บ้าง แม้ตัวรถมีมิติขนาดใหญ่และหนักแต่ด้วยพลังและความมั่นคงทำให้พาเข้าออกโค้งในสนามพีระฯ ได้สบายกว่าที่คาดไว้ ... ช่วงสุดท้าย Dirt กับการขี่แบบออฟโร้ด เป็นรุ่นไหนไปไม่ได้นอกจาก Pan America 1250 Special ปี 2024 ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยเฉพาะช่วงล่างที่ตอบสนองได้ดีเยี่ยมมากกว่าเดิม โดยใช้พื้นที่ขี่บริเวณเขาไผ่การขี่เป็นกลุ่มสุดท้ายหลังฝนตกลงมาทำให้การขี่ท้าทายมากยิ่งขึ้น ผู้เขียนที่ขี่ผ่านทางดินที่เปียกชุ่มไปด้วยฝนเพราะช่วงที่เข้าไปฝนเริ่มตกอีกครั้งและหนักมากขึ้นเรื่อย แต่ด้วยบาลานซ์และเทคโนโลยีที่ดีของตัวรถทำให้เอาตัวรอดออกมาจากทางดินได้โดยไม่ล้มและต้องขี่กลับแบบออนโร้ดมายังสนามพีระฯ เสมือนการใช้ขี่แบบ dual-purpose ด้วยราคาค่าตัว 940,000 บาท ก็นับเป็นทางเลือกที่โดดเด่นมากๆ สำหรับใครที่อยากได้บิ๊กไบค์แอดเวนเจอร์ ทัวร์ริ่งแบบตัวท็อปที่ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท และมีศูนย์บริการรองรับหลายแห่ง

8
วิธีลดหุ้น ลดน้ำหนัก ได้อย่างรวดเร็ว ทันใจ ไม่ต้องรอให้นาน

ถึงแม้การบริหารร่างกาย จะเป็นแนวทางที่คนรักสุขภาพ และก็ผู้ที่ปรารถนาลดหุ่นหลายท่านเลือกใช้ แม้กระนั้นก็จำเป็นต้องสารภาพว่าในความเป็นจริงแล้วการบริหารร่างกายไม่ใช่ทางออกของการลดความอ้วนทั้งผอง เพราะว่าสาเหตุอื่นๆรอบกาย ก็ยังช่วยมีผลสำหรับการลดหุ่นของคุณโดยที่คุณอาจจะไม่เคยทราบหรือทำไม่ถูกทางก็เป็นไปได้ สรุปว่าไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลไป เนื่องจากว่าวันนี้พวกเรานำ แนวทางลดหุ่นอย่างถูกทาง ให้หุ่นดีเร็วทันใจไม่ต้องรอนานมาฝากแล้ว

แคลอรีที่กินต่อวัน

สิ่งจำเป็นมากต่อการลดความอ้วนไม่ใช่แค่เพียงแต่บริหารร่างกายแค่นั้น แม้กระนั้นคุณจะต้องจำกัดของกินที่รับประทานด้วย ถ้าคุณปรารถนาลดหุ่นให้ได้ประสิทธิภาพที่ดี คุณน่าจะเผาผลาญ 3,500 แคลอรีในหนึ่งอาทิตย์ นั่นแสดงว่าคุณจำเป็นต้องเบิร์น 500 แคลอรีต่อวัน

ซึ่งบางทีก็อาจจะเป็นการยากแม้จะบริหารร่างกายเพียงอย่างเดียว ด้วยเหตุนั้นคุณควรจะตัดของกินที่มี 250 แคลอรีขึ้นไปและไม่ได้เป็นของกินหลัก ยกตัวอย่างเช่น ไอศกรีม หรือของหวานต่างๆแล้วเบิร์นออกด้วยการบริหารร่างกายอีก 250 แคลอรีเพียงเท่านี้การลดความอ้วนจะไม่ทำให้ท่านมีความรู้สึกว่าเกิดเรื่องทรมาทรกรรมอีกแล้ว

ออกกำลังกายตอนเย็น

ภายหลังเวลาเลิกงาน อันแสนเหนื่อยแบบเอาจริง เอาจังแล้ว อย่าเอาความเมื่อยล้ารวมทั้งความเฉื่อยชามาเป็นคำกล่าวอ้างที่จะไม่บริหารร่างกายเลยดียิ่งกว่า เนื่องจากของกินที่คุณรับประทานไปหลายแคลอรีตั้งแต่ตอนเช้านั้น คุณจึงควรบริหารร่างกายเผาผลาญออกไปบ้าง ถ้าเกิดว่าไม่มีเวลาออกไปฟิตเนสนอกบ้าน หรืออากาศในวันนั้นๆไม่เป็นใจ คุณก็สามารถบริหารร่างกายในบ้านได้ด้วยการกระโดดเชือก หรือทำท่าการบริหารร่างกายต่างๆเพื่อรูปร่างกระชับ ฯลฯ

คาร์ดิโอ

แม้ใครกันแน่เป็นผู้เผลอไผลสำหรับในการบริหารร่างกายตัวจริง แน่ๆว่าจำเป็นที่จะต้องรู้จักวิธีการทำคาร์ดิโอ หรือการบริหารร่างกายแบบแอโรบิค ที่ใช้ความเข้มข้นสำหรับในการบริหารร่างกายต่ำ แล้วก็ใช้พลังงานจากออกสิเจนเป็นหลัก คนใดที่กำลังต้องการลดความอ้วน ควรจะทำคาร์ดิโออย่างเอาจริงเอาจังราวๆ 45 นาทีต่ออาทิตย์ อาทิเช่น วิ่ง หรือขี่จักรยานในร่ม แนวทางเหล่านี้สามารถที่จะช่วยให้ระบบเผาผลาญของกินของคุณดียิ่งขึ้นได้ด้วย

 ดื่มน้ำ

นอกเหนือจากที่จะช่วยทำให้ร่างกายของคุณมีชีวิตชีวาขึ้นแล้ว การกินน้ำยังมีส่วนช่วยสำหรับเพื่อการลดความอ้วนด้วย ด้วยเหตุนั้นทดลองกินน้ำก่อนมื้อของกินทุกคราว จะช่วยทำให้คุณรับประทานอาหารได้ลดน้อยลง หรือเลือกทานอาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำมากมาย ได้แก่ ผักแล้วก็ผลไม้ ยิ่งกว่านั้น ผลที่เกิดจากการวิจัยชี้ว่าการกินน้ำเย็น จะช่วยปรับให้ระบบเผาผลาญของกินดำเนินงานได้เร็วขึ้น แถมยังช่วยลดอาการต้องการน้ำหวานและก็น้ำอัดลม ที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดอาการอ้วนฉุได้ง่ายอีกด้วย

ผักผลไม้

ในหนึ่งอาทิตย์ร่างกายของคุณควรจะได้รับผักรวมทั้งผลไม้อย่างต่ำ 5 วันหรือทุกวี่ทุกวันได้ยิ่งดี ด้วยเหตุว่าผัก รวมทั้งผลไม้เป็นของกินแคลอรี่ต่ำ ทั้งยังยังช่วยเพิ่มเติมใยอาหารให้แก่ร่างกาย ที่ช่วยสำหรับในการถ่ายอีกด้วย ผู้ใดที่รู้สึกตัวว่าไม่ค่อยได้รับผักรวมทั้งผลไม้ไปสู่ร่างกายเป็นประจำก็รีบปฏิรูปมื้อของกินของตนเองกันเถิด

9
คอนโดติดรถไฟฟ้า เกล็นเดล อ่อนนุช-ศรีนครินทร์ (Glendale Onnut-Srinagarindra)
เริ่มต้น 1.19 ลบ.

เกล็นเดล อ่อนนุช-ศรีนครินทร์ (Glendale Onnut-Srinagarindra)
โครงการ Glendale Onnut-Srinagarindra คอนโด Low-Rise ขนาด 8 ชั้น มีห้องชุดจำนวน 64 ห้อง พร้อมส่วนกลางสระว่ายน้ำ และฟิตเนส ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองประมาณ 850 เมตร

 รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ              เกล็นเดล อ่อนนุช-ศรีนครินทร์ (Glendale Onnut-Srinagarindra)
 เจ้าของโครงการ        ทีซีเอเอส ไฮเทค เดคคอร์
 ราคา                     เริ่มต้น 1.19 ลบ.

 ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.     เริ่มต้น 56,000 บ./ตร.ม.
 ลักษณะทำเล           คอนโดในเมือง, คอนโดใกล้ขนส่งสาธารณะ
 ความสูงคอนโด         Low Rise (ไม่เกิน 8 ชั้น)
 ลักษณะกรรมสิทธิ์      โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ประเภทห้องที่มี        1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน, Duplex, 1 Bed Plus
 ขนาดห้องที่มี          โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 เนื้อที่ทั้งหมด          2 งาน 53 ตร.ว.
 จำนวนตึก             1 อาคาร
 จำนวนชั้น             8 ชั้น
 จำนวนห้อง            64 ยูนิต
 ที่จอดรถทั้งหมด      25 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
 ค่าบำรุงส่วนกลาง     55.00 บ./ตร.ม.
 สาธารณูปโภค          สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, อื่นๆ (Lobby, Mailbox, ระบบ Security Service Triple Security Point System), Co-Working Space

 สถานที่ใกล้เคียง
 โซน     ประเวศ, พระโขนง, สวนหลวง
 ที่ตั้ง    ซอยอ่อนนุช 46 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ

 ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า:             ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีเหลือง, สถานี(ลาดพร้าว - สำโรง)(ศรีนครินทร์ 38)

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง

ห้างสรรพสินค้า
7 – Eleven : 90 ม.
Pickadaily Bangkok : 1.6 กม.
Makro Food Service ศรีนครินทร์ : 2.7 กม.
Udomsuk Walk : 4.7 กม.
Central บางนา : 4.7 กม.
Makro อุดมสุข : 5.0 กม.
Whizdom 101 : 5.1 กม.
Seacon Square : 5.1 กม.
Big C บางนา : 5.1 กม.
Big C อ่อนนุช : 5.2 กม.
Paradise Park : 5.4 กม.
ตลาดอุดมสุข : 5.5 กม.
One Udomsuk : 5.5 กม.
Index บางนา : 5.9 กม.
The Phyll : 6.4 กม.
Lotus อ่อนนุช : 6.7 กม.
ตลาดนัดรถไฟ : 6.1 กม.
Gateway เอกมัย : 8.0 กม.
The Emporium : 9.5 กม.
Mega บางนา : 10.3 กม.
The EmQuartier : 10.3 กม.
Ikea บางนา : 10.6 กม.

สถานศึกษา
รร.นราทร : 15 ม.
วิทยาลัยดุสิตธานี : 2.9 กม.
รร.สิริรัตนาธร : 4.5 กม.
รร.นานาชาติ Berkeley : 6.1 กม.
รร.นานาชาติ St.Andrews : 8.7 กม.
รร.บางกอกพัฒนา : 8.8 กม.

ศูนย์การแพทย์
รพ.ไทยนครินทร์ : 5.7 กม.
รพ.ศิครินทร์ : 6.8 กม.
รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ : 7.2 กม.
รพ.บางนา 1 : 7.3 กม.
รพ.สุขุมวิท : 7.9 กม.
รพ.ทหารเรือ กรุงเทพ : 9.6 กม.

อื่น ๆ
วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร : 2.0 กม.
วัดธรรมมงคล : 5.4 กม.
สวนหลวง ร.9 : 6.8 กม.
Bitec บางนา : 7.6 กม.

สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
สถานีดับเพลิง พระโขนง : 5.5 กม.
สนง.เขตพระโขนง : 6.3 กม.
สนง.ขนส่ง กทม.พื้นที่ 3 : 6.4 กม.
กรมสรรพาวุธ : 8.2 กม.
สนง.เขตบางนา : 8.2 กม.

 ปีที่สร้างเสร็จ
โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

10
หมอออนไลน์: บาดทะยัก (Tetanus)

บาดทะยัก เป็นโรคที่มีอันตรายร้ายแรง ซึ่งยังพบได้เป็นครั้งคราวในบ้านเรา พบได้ในคนทุกวัย ส่วนมากจะมีประวัติมีบาดแผลตามร่างกาย (เช่น ตะปูตำ หนามเกี่ยว มีบาดแผลสกปรก หรือขาดการดูแลที่ถูกต้อง) และผู้ป่วยไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักมาก่อน

ในสมัยก่อนพบทารกแรกเกิดเป็นบาดทะยักค่อนข้างบ่อย เรียกว่า บาดทะยักในทารกแรกเกิด (tetanus neonatorum)* เนื่องจากการคลอดที่ไม่สะอาด (เช่น คลอดตามบ้านโดยใช้ไม้รวกหรือตับจากตัดสายสะดือ) หรือการดูแลสะดือไม่ถูกต้อง (เช่น ใช้น้ำหมากน้ำลายบ้วน) ทำให้เกิดการติดเชื้อกลายเป็นบาดทะยัก ซึ่งมักจะพบมีอาการช่วงหลังคลอด ประมาณ 4-14 วัน

ในปัจจุบัน พบโรคนี้น้อยลงทั้งในผู้ใหญ่และทารกแรกเกิด เนื่องจากมีการฉีดวัคซีนป้องกัน มีการคลอดที่สะอาดปลอดภัย และการดูแลสะดือทารกที่ถูกต้องมากกว่าสมัยก่อนมาก

* โบราณเรียก ลมสะพั้น ลมตะพั้น สะพั้น หรือตะพั้น หมายถึง อาการชัก มือกำเท้ากำในเด็กอ่อน ซึ่งสาเหตุหนึ่งก็คือบาดทะยัก

สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อบาดทะยัก ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียมเตตานิ (Clostridium tetani) มีลักษณะเป็นสปอร์ มีอยู่ทั่วไปตามดิน ฝุ่น มูลสัตว์ (เช่น วัว ควาย หมู ไก่ สุนัข แมว หนู) และอุจจาระคน เชื้อมีความทนทานต่ออุณหภูมิ ความชื้น และสารเคมีฆ่าเชื้อ (เช่น แอลกอฮอล์ ฟีนอล ฟอร์มาลดีไฮด์) สามารถมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานเป็นปี ๆ เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล* โดยการแปดเปื้อนถูกดิน ฝุ่น มูลสัตว์ หรืออุจจาระที่มีสปอร์ของเชื้อบาดทะยัก แล้วแบ่งตัวเจริญเติบโตที่บริเวณบาดแผล ซึ่งจะเจริญได้ดีในที่ ๆ มีออกซิเจนน้อย ได้แก่ บาดแผลที่ลึกและแคบ (เช่น บาดแผลถูกตำ) แต่ก็อาจเจริญในบาดแผลถลอกและบาดแผลในลักษณะอื่น ๆ หลังจากนั้นเชื้อจะปล่อยพิษ (มีชื่อว่า tetanospasmin หรือ tetanus toxin) ออกมา ซึ่งจะกระจายไปตามเส้นประสาท และออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อที่รอยต่อกล้ามเนื้อร่วมประสาท (neuromuscular junction) และประสาทส่วนกลาง กระตุ้นให้กล้ามเนื้อทั่วร่างกายเกิดการหดเกร็ง (spasm) และแข็งตัว (rigidity) ขณะเดียวกันก็ออกฤทธิ์ที่ระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้ชีพจรและความดันผิดปกติ เหงื่อออกมาก หลอดเลือดส่วนปลายตีบตัว

ระยะฟักตัว 5 วัน-15 สัปดาห์ (ส่วนใหญ่ระหว่าง 6-15 วัน) ระยะฟักตัวยิ่งสั้น โรคจะยิ่งรุนแรงและอันตราย

* ส่วนใหญ่เป็นบาดแผลตามผิวหนังและสะดือทารก ส่วนน้อยที่เป็นบาดแผลอื่น ๆ เช่น บาดแผลฉีดยาด้วยเข็มไม่สะอาด บาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก บาดแผลในช่องปาก (เช่น ฟันผุ ถอนฟัน) ช่องหู (หูน้ำหนวก) บาดแผลผ่าตัด เป็นต้น

อาการ

ระยะแรกเริ่ม ผู้ป่วยจะมีอาการขากรรไกรแข็ง (lockjaw) เนื่องจากกล้ามเนื้อเกี่ยวกับการเคี้ยว หดเกร็ง และแข็งตัว ทำให้มีอาการขยับปากไม่ได้ ทำท่าเหมือนยิ้มแสยะ กลืนลำบาก

ผู้ป่วยอาจมีอาการกระสับกระส่าย

ในทารกมักมีอาการร้องกวน ไม่ยอมดูดนม และอ้าปากไม่ได้

ต่อมาจะมีอาการหดเกร็งและแข็งตัวของกล้ามเนื้อบริเวณคอ หน้าอก หน้าท้อง หลัง แขนขา ทำให้มีอาการคอแข็ง ท้องแข็ง หลังแอ่น (opisthotonus)

เมื่อถูกสิ่งกระตุ้น เช่น การถูกสัมผัสตัว แสงสว่างเข้าตา (เช่น แสงแดด แสงไฟจ้า) หรือได้ยินเสียงดัง ๆ ผู้ป่วยจะมีอาการชักเกร็งของแขนขาและกล้ามเนื้อทุกส่วนเป็นพัก ๆ

ผู้ป่วยมีสติรู้สึกตัวดีตลอดเวลา (ต่างกับโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบและสมองอักเสบที่ผู้ป่วยไม่ค่อยรู้สึกตัว) และทุกครั้งที่ชักจะรู้สึกปวดมาก

ขณะที่มีอาการชักเกร็ง ผู้ป่วยอาจหายใจลำบาก ตัวเขียว และอาจหยุดหายใจได้

ภาวะแทรกซ้อน

อาจพบอาการขาดออกซิเจนขณะชัก อาการขาดอาหารเพราะกลืนไม่ได้ ถ่ายอุจจาระและปัสสาวะไม่ได้ เนื่องจากการแข็งตัวของกล้ามเนื้อหูรูด ปอดอักเสบ ปอดแฟบ (atelectasis) ปอดทะลุ กระดูกสันหลังหักจากการชัก

ในระยะท้ายของโรค ผู้ป่วยอาจหยุดหายใจ และหัวใจวายถึงตายได้

อาการชักเกร็งทั้งตัวและหลังแอ่น

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก ซึ่งมักตรวจพบอาการขากรรไกรแข็ง อ้าปากไม่ได้ ใบหน้ามีลักษณะเหมือนยิ้มแสยะ (อาจมีกลิ่นปากถ้าเป็นมาหลายวัน) คอแข็ง หลังแอ่น และอาการชักเกร็งเป็นพัก ๆ เวลาถูกสิ่งกระตุ้น

รีเฟล็กซ์ของข้อ (tendon reflex) มักจะไวกว่าปกติ

อาจไม่มีไข้หรือมีไข้ต่ำ ๆ (ไข้มักไม่สูงมาก ยกเว้นในรายที่มีปอดอักเสบแทรก)

ในรายที่เป็นรุนแรง อาจมีชีพจรเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตสูงหรือต่ำกว่าปกติ เหงื่อออกมาก ไข้ขึ้นสูง หลอดเลือดส่วนปลายตีบตัว

ส่วนมากจะพบมีบาดแผลอักเสบ (ในทารกมักพบว่ามีสะดืออักเสบ) แต่ในบางรายอาจไม่พบบาดแผลชัดเจนก็ได้

หากแยกไม่ได้ชัดเจนจากสาเหตุอื่น อาจต้องทำการตรวจพิเศษ เช่น ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ เพาะเชื้อ เจาะหลัง ตรวจน้ำไขสันหลัง เอกซเรย์ เป็นต้น เพื่อวินิจฉัยแยกโรคอื่น ๆ

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะรับตัวผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาล ให้การรักษาตามอาการและรักษาแบบประคับประคอง เช่น ให้สารน้ำ เกลือแร่ และอาหาร ให้ยากันชัก (เช่น ไดอะซีแพม) ใส่ท่อหายใจ (บางรายอาจต้องเจาะคอ) และใช้เครื่องช่วยหายใจ ดูแลรักษาบาดแผล เป็นต้น

ที่สำคัญ จำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก ให้ยาต้านพิษบาดทะยักและยาปฏิชีวนะ

ผลการรักษา ถ้าผู้ป่วยได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะแรกเริ่มที่เป็น ก็มักจะมีโอกาสหายขาดได้ อาจต้องใช้เวลารักษาและฟื้นฟูสภาพด้วยการทำกายภาพบำบัด นานหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน แต่ถ้าปล่อยไว้จนมีอาการรุนแรง (เช่น หลังแอ่น) แล้ว โอกาสรอดก็น้อยลงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพบในทารกหรือผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีระยะฟักตัวของโรคสั้น มีไข้สูง หรือชักตลอดเวลา ก็มีโอกาสมีอันตรายมากยิ่งขึ้น

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น  มีอาการขากรรไกรแข็ง อ้าปากไม่ได้ ใบหน้ามีลักษณะเหมือนยิ้มแสยะ คอแข็ง หลังแอ่น และอาการชักเกร็งเป็นพัก ๆ เวลาถูกสิ่งกระตุ้น (เช่น แสง เสียง การสัมผัสถูกตัว) ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

เมื่อพบว่าเป็นบาดทะยัก ควรดูแลรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด

ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา (เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ) ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด

การป้องกัน

1. ฉีดวัคซีนรวมป้องกันคอตีบ บาดทะยัก และไอกรน (DTP) ตั้งแต่อายุได้ 2 เดือน ถ้าไม่เคยฉีดตอนเด็ก ควรฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักให้ครบตามกำหนด และควรฉีดกระตุ้นทุก ๆ 10 ปี

2. สำหรับหญิงตั้งครรภ์ หากไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันบาดทะยักมาก่อน ควรฉีดวัคซีนรวม 3 เข็ม โดยเริ่มฉีดเข็มแรกเมื่อฝากครรภ์ครั้งแรก เข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรกอย่างน้อย 1 เดือน และเข็มที่ 3 ห่างจากเข็มแรกอย่างน้อย 6 เดือน (ถ้าฉีดไม่ทันขณะตั้งครรภ์ ก็ให้ฉีดหลังคลอด) จากนั้นให้กระตุ้นทุก 10 ปี

หากเคยได้รับวัคซีนมาแล้ว 1 เข็ม ควรให้อีก 2 เข็ม ห่างกันอย่างน้อย 6 เดือน หากเคยได้รับวัคซีนมาแล้ว 2 เข็ม ควรให้อีก 1 เข็ม ห่างจากเข็มที่ 2 อย่างน้อย 6 เดือน จากนั้นให้กระตุ้นทุก 10 ปี

หากเคยได้รับวัคซีนมาก่อนอย่างน้อย 3 เข็ม และเข็มสุดท้ายนานกว่า 10 ปี ให้ฉีดกระตุ้นอีกเพียง 1 เข็ม จากนั้นให้กระตุ้นทุก 10 ปี

3. ควรแนะนำให้หญิงตั้งครรภ์คลอดกับบุคลากรที่รู้จักรักษาความสะอาดในการทำคลอด ถ้าจำเป็นต้องคลอดกันเองที่บ้าน ควรใช้กรรไกรที่ผ่านกรรมวิธีในการฆ่าเชื้อตัดสายสะดือเด็ก นอกจากนี้ควรแนะนำให้รู้จักทำความสะอาดสะดือเด็กอย่างถูกต้อง

4. เมื่อมีบาดแผลตะปูตำ หนามตำ สัตว์กัด ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือบาดแผลสกปรก ควรชะล้างบาดแผลด้วยน้ำสะอาดกับสบู่ทันที และพิจารณาให้ฉีดยาป้องกันบาดทะยัก (วัคซีนปัองกันบาดทะยัก ยาต้านพิษบาดทะยัก) ตามตารางข้างล่าง

ข้อแนะนำ

1. ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการบาดทะยักเฉพาะที่ คือมีอาการหดเกร็งและแข็งตัวของกล้ามเนื้อใกล้บริเวณบาดแผล มักเกิดจากการติดเชื้อที่ไม่รุนแรงและหายไปได้เอง แต่ในบางรายก็อาจมีอาการกระจายไปทั่วร่างกายก็ได้

2. ผู้ป่วยบาดทะยักในระยะแรกเริ่มที่มีอาการขากรรไกรแข็ง และคอแข็ง โดยผู้ป่วยยังรู้สึกตัวดีและไม่มีไข้ อาจแยกไม่ได้ชัดเจนจากอาการข้างเคียงจากยา เช่น เมโทโคลพราไมด์ ฟีโนไทอาซีน (phenothiazine) เป็นต้น ถ้าพบผู้ป่วยที่มีอาการดังกล่าว แพทย์จะรับตัวไว้สังเกตอาการในโรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด ถ้าเกิดจากยามักมีประวัติเกิดอาการหลังใช้ยาและจะทุเลาได้เองเมื่อหมดฤทธิ์ยา (ภายใน 6-8 ชั่วโมง) หรือหลังให้ยา (เช่น ไดเฟนไฮดรามีน)

11
จัดฟันบางนา: เครื่องมือที่จะได้รับระหว่างการจัดฟันแบบใส

หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า เครื่องมือกรจัดฟันแบบใสนั้น สามารถถอดออกได้ขณะรับประทานอาหารและขณะทำความสะอาดช่องปากและฟัน โดยการใช้ชุดของเครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้ ซึ่งทำขึ้นเฉพาะสำหรับเฉพาะบุคคลเท่านั้น เครื่องมือจัดฟันเหล่านี้ทำจากพลาสติกใสที่แทบจะไม่สามารถมองเห็นได้ ซึ่งผู้เข้ารับการจัดฟันสวมใส่ไว้บนฟันเพื่อให้ฟันได้ทำหน้าที่เคลื่อนฟันให้เข้าที่อย่างช้าๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่แทบจะไม่สังเกตเห็นว่าเรากำลังสวมใส่เครื่องือการจัดฟันอยู่ ซึ่งเป้นการเสริมสร้างบุคลิกภาพของผู้เข้ารับการจัดฟันเองด้วย ช่วยให้ผู้เข้ารับการจัดฟันสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติในระหว่างการจัดฟัน ซึ่งวันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงเครื่องมือการจัดฟันแบบใส ซึ่งหลายคนอาจจะมีข้อสงสัยว่า เครื่องมือการจัดฟันแบบใสนั้น

เราจะต้องปรับเปลี่ยนกี่ครั้งและเมื่อเข้ารับการจัดฟันแบบใสแล้ว จะได้รับเครื่องมือกี่ชิ้นและมีอะไรบ้าง เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ที่สนใจเข้ารับการจัดฟันได้เป็นแนวทางในการศึกษารายละเอียดและข้อมูลต่างๆ ก่อนอื่นเราจะพามารู้จักกับตัวเครื่องมือการจัดฟันแบบใส หรือที่เราเรียกว่า Invisalign ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดฟันที่ทำมาจากพลาสติกที่ผิวสัมผัสเรียบ พิเศษกว่าการจัดฟันแบบใส่เหล็ก มีความสะดวกสบายกว่า ไม่ทำให้เกิดความระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อในปาก สามารถถอดออกง่ายเวลารับประทานอาหารหรือแปรงฟัน และจุดเด่นของเครื่องมือการจดฟันแบบใสอีกอย่างหนึ่งก็คือ เป็นเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคล โดยการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยในการผลิตชุดของเครื่องมือจัดฟัน โดยแต่ละชุดจะค่อยๆจัดเรียงฟันของคุณให้เคลื่อนไปยังตำแหน่งที่ทันตแพทย์จัดฟันได้กำหนดไว้ในแผนการรักษาอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่รู้สึกเจ็บปวด

สำหรับเครื่องมือการจัดฟันแบบใสที่ผู้เข้ารับการจัดหันจะได้รับในระหว่างการรักษา ก็คือ Attachments ซึ่งอาจจำเป็นต้องใช้ตุ่ม เล็กๆ สีใสหรือสีเดียวกับฟัน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ในการช่วยเคลื่อนที่ของฟันไปบางจุด ทำหน้าที่เป็นตัวไกด์เพื่อให้ฟันเข้าไปอยู่ในเครื่องมือนั่นเอง ต่อมาคือยาง หรือที่เรียกว่า Elastics ก็คือยางที่ยืดระหว่างขากรรไกรหรือระหว่างซี่ในระนาบเดียวกัน เพราะฉะนั้น ยางดึงฟันจะไม่ใช่ยางมัดฟันหรือ O-Ring ที่ติดอยู่กับแบร็กเก็ตซี่ฟัน จะมีความต่างกันด้วยลักษณะที่ใหญ่กว่า ยืดได้มากกว่าโอริง
อาจจะจำเป็นในการช่วยเพิ่มการเคลื่อนที่และเครื่องมืออีกอย่างหนึ่งก็คือ IPR ใช้เพื่อแต่งซอกฟัน ตะไบฟันเพื่อให้เกิดช่องว่าง ซึ่งไม่เกิน 0.5 มิลลิเมตรต่อซี่ และอยู่ในระดับที่ปลอดภัย และเมื่อเข้ารับการจัดฟันแบบใสเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องสวมใส่รีเทนเนอร์ เป็นเครื่องมือคงสภาพฟันหลังจัดฟันเสร็จ เหตุผลที่ต้องใส่รีเทนเนอร์ก็ เพื่อช่วยยึดฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการหลังจัดฟันเสร็จ เนื่องจากเหงือกและเนื้อเยื่อปริทันต์บริเวณที่ฟันเคลื่อนไปนั้นต้องการเวลาสำหรับการปรับตัวในตำแหน่งใหม่

ภายหลังจากจัดฟันเสร็จ ฟันอาจอยู่ในตำแหน่งที่ยังไม่คงที่ ดังนั้นแรงจากกล้ามเนื้อรอบๆช่องปากอาจมีผลให้ฟันเคลื่อนกลับ สำหรับระยะเวลาการสวมใส่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพความผิดปกติของฟันก่อนจัดฟัน โดยส่วนใหญ่จะต้องใส่รีเทนเนอร์ตลอดเวลา ยกเว้น เวลารับประทานอาหารและแปรงฟัน เป็นเวลา 3-4 เดือน จากนั้นให้ใส่เฉพาะเวลากลางคืนหรือเวลานอนอีกประมาณ 12 เดือน ทั้งนี้แพทย์จัดฟันจะเป็นผู้ประเมินสภาพฟันและอธิบายให้ทราบหลังจัดฟันเสร็จ ทั้งหมดนี้ก็คือเครื่องมือการจัดฟันที่ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องได้รับ

สำหรับใครที่สนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์อย่างยาวนาน มีความเชี่ยวชาญทางด้านทันตกรรมครบวงจร จึงทำให้สามารถมั่นใจได้ว่า คุณจะมีฟันที่สวยงาม และมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ทางคลินิกของเรา ยังได้รับการรับรองสูงสุดจากทาง Invisalign ให้สามารถให้บริการจัดฟันแบบใสได้ถูกต้องตามมาตรฐานสากล จึงทำให้มีความน่าเชื่อถือว่า เมื่อเข้ารับการจัดฟันที่คลินิกของเรา คุณจะมีความปลอดภัยและได้รับการรักษาที่มีมาตรฐานอย่างแน่นอน เพราะเราใส่ใจในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของทุกคน เพื่อที่จะได้มีฟันที่แข็งแรง สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ  เพราะเราอยากให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข

12
มิตซูบิชิ ไทรทัน 2024: All-new Mitsubishi TRITON 2024 ใหม่ เตรียมเปิดตัวครั้งแรก

All-new Mitsubishi TRITON 2024 ใหม่ เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ คาดมีดีไซน์ถอดแบบมาจาก Mitsubishi XRT Concept ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ประกาศเตรียมเปิดตัวกระบะ All-new Mitsubishi TRITON 2023 - 2024 (มิตซูบิชิ ไทรทัน) เจเนอเรชันที่ 6 ในวันพุธที่ 26 กรกฎาคมนี้ โดยระบุว่ารถรุ่นดังกล่าวได้รับการพัฒนาเพื่อตอบสนองลูกค้าหลากหลายกลุ่มทั่วโลก ทั้งกลุ่มรถส่วนตัวเน้นไลฟ์สไตล์แอคทีฟ และกลุ่มใช้งานเพื่อการพาณิชย์ ประกอบกับประเทศไทยมีส่วนแบ่งการตลาดรถปิกอัพกว่าครึ่งหนึ่งของตลาดรถยนต์ทั้งหมด จึงได้เลือกประเทศไทยเป็นประเทศกลุ่มแรกในการเปิดตัว

     ก่อนหน้านี้ มิตซูบิชิได้นำเอา Mitsubishi XRT Concept มาจัดแสดงที่งานบางกอกมอเตอร์โชว์เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นต้นแบบกระบะไทรทันที่กำลังจะเปิดตัวดังกล่าว ถูกห่อหุ้มด้วยสติกเกอร์ลายพรางที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก “ลาวา” พร้อมด้วยลายกราฟิกเส้นขนานแนวเฉียง 10 เส้น ในแบบฉบับของโลโก้ RALLIART สะท้อนถึงดีเอ็นเอมอเตอร์สปอร์ตของมิตซูบิชิ ตกแต่งเพิ่มความบึกบึนด้วยซุ้มล้อหน้า-หลัง พร้อมยาง Mud-terrain

Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) เป็นรถรุ่นขายดีที่สุดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ถูกผลิตจากโรงงานแหลมฉบังในประเทศไทย เพื่อส่งออกไปยังกว่า 150 ประเทศทั่วโลก โดยไทรทันเจเนอเรชันที่ 6 ถือเป็นการออกแบบใหม่ทั้งคันครั้งแรกในรอบ 9 ปี มีแผนเปิดตัวในประเทศไทยภายในปี 2566 ก่อนจะถูกเปิดตัวในภูมิภาคอาเซียน โอเชียเนีย และตลาดอื่นๆ ทั่วโลกต่อไป

     รายละเอียดอย่างเป็นทางการของ All-new Mitsubishi Triton ใหม่ ติดตามได้ในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้

13
บริการทำความสะอาด: เคล็ดลับ ใช้ไม้กวาดหยากไย่ทำความสะอาดเพดาน

ไม้กวาดไม่ได้มีไว้แค่เพื่อกวาดพื้นเท่านั้น ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันไม้กวาดหยากไย่ก็ยังเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดที่จำเป็นสำหรับทุกบ้านอยู่เสมอ เพราะมีไว้เพื่อทำความสะอาดเพดานที่สูง ซึ่งเราไม่สามารถปัดกวาดได้ด้วยไม้กวาดธรรมดา แล้วควรใช้งานไม้กวาดหยากไย่อย่างไรให้ประหยัดแรง? ตามมาดูเคล็ดลับการใช้งานไม้กวาดหยากไย่และการเลือกซื้ออย่างไรให้ได้ของดีและมีคุณภาพกันครับ

          ไม้กวาดหยากไย่ หรือมีชื่อเรียกอีกว่า ไม้กวาดเสี้ยนตาล และ ไม้กวาดใยตาล เหตุผลเนื่องมาจาก วัสดุของขนไม้กวาดหยากไย่ในอดีตมักทำจากเสี้ยนตาลนั่นเอง แต่ในปัจจุบันไม้กวาดหยากไย่ มีวัสดุให้เลือกใช้หลากหลายขึ้น

          ซึ่งไม้กวาดหยากไย่ เป็นไม้กวาดที่ใช้กวาดเพดานโดยเฉพาะ ข้อดีคือจะมีด้ามขนาดยาว ปลายไม้กวาดแบน เหมาะสำหรับใช้ปัดฝุ่นและหยากไย่บนเพดานสูง แต่ก็มีข้อเสีย คือ การที่มีด้ามยาวมาก หากไม่ใช่ด้ามที่ผลิตมาเพื่อให้พับเก็บได้ ก็จะทำให้ไม่สะดวกในการจัดเก็บ

การเลือกซื้อไม้กวาดหยากไย่ควรพิจารณาจากอะไร?

• วัสดุขนไม้กวาดหยากไย่
          ในปัจจุบันมีวัสดุให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบดั้งเดิมอย่างเส้นใยตาล ที่มีความแข็ง ทนทาน แต่ก็มีข้อเสียคือไม่กันน้ำ หรือจะเป็นวัสดุที่ทำจากพลาสติก PP ก็จะมีความอ่อนนุ่ม และกันน้ำได้ดี

• ความยาวของด้ามไม้กวาดหยากไย่
          ไม้กวาดหยากไย่มีความยาวของด้ามให้เลือกมากมาย เนื่องจากแต่ละบ้านหรือสำนักงานมีความสูงของเพดานที่แตกต่างกัน ก่อนซื้อเราจึงต้องรู้ระยะความสูงที่ต้องการทำความสะอาด เพื่อจะได้เลือกด้ามที่มีความยาวพอดีกับการใช้งาน

• ฟังก์ชันของด้ามไม้กวาดหยากไย่
          เนื่องจากไม้กวาดหยากไย่มีด้ามที่ยาวมาก จึงยากต่อการจัดเก็บเมื่อใช้งานเสร็จ ทางผู้ผลิตจึงมีการพัฒนาให้บางรุ่นมีด้ามไม้กวาดที่สามารถยืดหดได้ เพื่อสะดวกต่อการเก็บ หรือแม้แต่ด้ามที่ปรับระดับความสูงได้หลายระดับ เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการที่หลากหลายของเจ้าของบ้าน

เคล็ดลับใช้ไม้กวาดหยากไย่ทำความสะอาดเพดาน

• เตรียมตัวป้องกันฝุ่นให้พร้อม
          ต้องสวมถุงมือ หมวก แว่นตา และหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่น เพราะการทำความสะอาดในที่สูงเราไม่สามารถควบคุมทิศทางการฟุ้งกระจายของฝุ่นและใยแมงมุมได้

• นำผ้าหรือพลาสติกมาคลุมเฟอร์นิเจอร์ก่อนทำความสะอาด
          เป็นที่ทราบกันดีว่า การทำความสะอาดจากด้านบน มักจะเกิดการตกหล่นของฝุ่น หยากไย่ ใยแมงมุม ลงมาด้านล่าง ดังนั้นการนำพลาสติกหรือผ้ามาคลุมเฟอร์นิเจอร์ก่อนทำความสะอาด จะช่วยไม่ให้เราต้องทำความสะอาดซ้ำซ้อน

• ทำความสะอาดจากบนลงล่าง และตามซอกมุม
          ใช้ไม้กวาดหยากไย่กวาดเพดานบริเวณที่มีหยากไย่ ให้ไล่จากด้านบนเพดาน ลงมาถึงผนัง รวมทั้งซอกมุมต่าง ๆ ที่เป็นที่อยู่ของแมงมุม เพื่อไม่ให้แมงมุมกลับมาทำรังซ้ำใหม่ได้อีก

• ใช้ถุงน่องช่วยลดการกระจายของฝุ่น
          นำถุงน่องหรือเนื้อผ้าที่มีลักษณะคล้ายกัน ชุบน้ำบิดหมาด แล้วให้สวมเข้ากับไม้กวาดหยากไย่ แล้วนำไปปัดทำความสะอาดบนเพดาน จะทำให้ฝุ่นกระจายน้อยลง และทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นด้วย

• ทำความสะอาดไม้กวาดหยากไย่ก่อนเก็บทุกครั้ง
          เมื่อใช้งานไม้กวาดหยากไย่เสร็จแล้ว อย่าลืมนำฝุ่นและใยแมงมุมออกจากขนไม้กวาดทุกครั้งก่อนนำเข้าเก็บ เพื่อยืดอายุการใช้งานของไม้กวาดหยากไย่

14
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: ซาร์ส (SARS)

ซาร์ส หรือโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง* (severe acute respiratory syndrome/SARS) เป็นโรคติดเชื้อไวรัสชนิดใหม่ที่พบระบาดในช่วงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2545 ถึงกรกฎาคม พ.ศ. 2546 พบมีผู้ป่วยทั้งสิ้น 8,098 ราย จาก 26 ประเทศ ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยเสียชีวิต 774 ราย ส่วนใหญ่พบระบาดในประเทศจีน ฮ่องกง ไต้หวัน แคนาดา เวียดนาม และสิงคโปร์

ในการระบาดใหญ่ทั่วโลกในครั้งนั้น ได้มีมาตรการควบคุมโรคอย่างได้ผล และปลอดจากผู้ป่วยรายใหม่มาจนถึงปัจจุบัน

โรคนี้พบได้ในคนทุกวัย และมักมีความรุนแรงในผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 40 ปี หรือมีภูมิต้านทานโรคต่ำ

*มีชื่อเรียกอื่น เช่น ไข้หวัดมรณะ ปอดบวมมรณะ ปอดอักเสบนอกแบบ (atypical pneumonia)

สาเหตุ

เกิดจากเชื้อไวรัสตัวใหม่ซึ่งอยู่ในตระกูลไวรัสโคโรนา (coronaviruses) ไวรัสตระกูลนี้มีอยู่หลายสายพันธุ์ สายพันธุ์ที่เคยพบในคนนั้นเป็นต้นเหตุของการเกิดไข้หวัดที่ไม่รุนแรง ส่วนสายพันธุ์ที่เคยพบในสัตว์ (สุนัข แมว หมู หนู นก) นั้นอาจทำให้เกิดความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ ระบบประสาท ตับ ลำไส้ของสัตว์เหล่านี้

ส่วนเชื้อไวรัสตัวใหม่นี้เป็นเชื้อที่กลายพันธุ์ขึ้นมาใหม่ เชื่อว่าแพร่มาจากสัตว์ป่าบางชนิด (ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นชนิดใด) นักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งชื่อเชื้อนี้ว่า ไวรัสโคโรนาสัมพันธ์กับซาร์ส (SARS-associated corona-virus/SARS-CoV) เรียกสั้น ๆ ว่า ไวรัสซาร์ส เชื้อชนิดนี้พบก่อโรคครั้งแรกที่มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน แล้วแพร่กระจายไปทั่วโลก

การแพร่เชื้อ จากลักษณะการติดต่อของโรคที่พบ แพร่กระจายเฉพาะในหมู่คนที่อยู่สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด เช่น แพทย์ พยาบาลที่ดูแลผู้ป่วย ญาติมิตรที่อยู่ในบ้านหรือห้องเดียวกันกับผู้ป่วย ผู้ที่อยู่ด้วยกันในห้องแคบ (เช่น ลิฟต์) เป็นต้น ทำให้สันนิษฐานว่า เชื้อไวรัสซาร์สแพร่กระจายทางละอองเสมหะขนาดใหญ่ (droplet transmission) แบบเดียวกับไข้หวัด กล่าวคือ โดยการไอจามรดใส่กันตรง ๆ ภายในระยะไม่เกิน 3 ฟุต (ประมาณ 1 เมตร) และโดยการสัมผัสมือ หรือสิ่งปนเปื้อนละอองเสมหะของผู้ป่วย เช่น แก้วน้ำ หลอดดูด ช้อนส้อม ผ้าเช็ดหน้า เป็นต้น (เชื้อไวรัสชนิดนี้สามารถมีชีวิตอยู่บนสิ่งปนเปื้อนได้นานถึง 3 ชั่วโมง) แล้วเผลอนำนิ้วมือที่เปื้อนละอองเสมหะนั้นเช็ดตา เช็ดจมูก เชื้อโรคก็จะผ่านทางเยื่อเมือกเข้าไปในทางเดินหายใจ

ส่วนการแพร่เชื้อทางอากาศ (airborne transmission) และทางอาหารและน้ำดื่มนั้น ยังไม่มีหลักฐานยืนยัน แต่ก็ยังไม่สามารถตัดออกไปได้

ระยะแพร่เชื้อ ผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นตั้งแต่เริ่มมีอาการเป็นไข้ในวันแรก และในวันที่ 4 หลังเป็นไข้จะแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้มากยิ่งขึ้น ส่วนระยะก่อนและหลังมีอาการนานกี่วันที่สามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่น ยังไม่ทราบแน่ชัด เพื่อความปลอดภัยแนะนำว่าผู้ที่หายจากอาการเจ็บป่วยควรแยกตัวนานอีก 10 วัน

ระยะฟักตัว 2-10 วัน (เฉลี่ย 4-6 วัน) บางรายอาจนาน 10-14 วัน

ในการเฝ้าระวังคนที่สงสัยว่าจะมีการติดเชื้อ เช่น เดินทางจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค จะต้องรอดูอาการอย่างน้อย 10 วัน เมื่อพบว่าเป็นปกติดีก็ถือว่าไม่ได้ติดเชื้อ

อาการ

แรกเริ่มจะมีอาการไข้ หนาวสั่น อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัวมาก เบื่ออาหาร คล้ายไข้หวัดใหญ่ บางรายอาจมีอาการท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน เจ็บคอหรือเจ็บหน้าอกร่วมด้วย ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการเป็นหวัด (เช่น จาม มีน้ำมูก)

2-7 วันหลังมีไข้ ผู้ป่วยจะมีอาการไอแห้ง ๆ ในรายที่เป็นรุนแรงถึงขั้นเป็นปอดอักเสบ ก็จะมีอาการเหนื่อยง่าย หายใจหอบ หายใจลำบากตามมา อาการรุนแรงมักเกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ 2 ของการเจ็บป่วยในผู้ป่วยส่วนใหญ่ ปอดอักเสบจะค่อย ๆ หายไปเองอย่างช้า ๆ และมักจะหายในสัปดาห์ที่ 3 ของโรค

ส่วนผู้ที่เป็นเล็กน้อย จะมีเพียงอาการไข้อยู่ประมาณ 4-7 วันก็หายไปเองคล้ายอาการไข้ธรรมดา อาจทำให้ไม่นึกถึงโรคนี้

ภาวะแทรกซ้อน

ที่ร้ายแรง ได้แก่ กลุ่มอาการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน (acute respiratory distress syndrome/ARDS) ซึ่งเป็นสาเหตุการตายที่สำคัญ

ร้อยละ 10-20 ของผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาล มีภาวะเลือดมีออกซิเจนน้อย (hypoxia) และจำเป็นต้องใส่ท่อและเครื่องช่วยหายใจ

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

ไข้ ≥ 38 องศาเซลเซียส และอาจตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติอื่น ๆ ชัดเจน

ในรายที่เป็นรุนแรงอาจพบอาการหายใจหอบ

การใช้เครื่องฟังตรวจปอดมักไม่ได้ยินเสียงผิดปกติชัดเจน

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัด โดยการตรวจหาร่องรอยของไวรัสซาร์สในเลือด น้ำลาย หรือเสมหะ ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น reverse transcriptase-polymerase chain reaction (RT-PCR), ELISA การแยกเชื้อในเซลล์เพาะเลี้ยง (cell culture), microneutralization test เป็นต้น

นอกจากนี้ อาจตรวจพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น การตรวจเลือด อาจพบว่ามีจำนวนเม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดต่ำกว่าปกติ เอนไซม์ตับ (AST, ALT) สูงกว่าปกติ 2-6 เท่า creatine phosphokinase สูงกว่าปกติ

การเอกซเรย์ปอดอาจพบร่องรอยของปอดอักเสบ

การรักษาโดยแพทย์

ถ้าพบผู้ป่วยมีไข้ และมีประวัติว่าก่อนหน้านี้ภายใน 10 วันได้เดินทางกลับจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคนี้ หรือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่สงสัยเป็นโรคนี้ ควรส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลโดยเร็ว

ถ้าตรวจพบหรือสงสัยเป็นโรคนี้ มักจะต้องรับตัวผู้ป่วยไว้รักษาในโรงพยาบาล และแยกตัวไม่ให้แพร่เชื้อให้ผู้อื่น

การรักษา ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาโดยจำเพาะ เพียงให้การรักษาตามอาการ ถ้ามีอาการหายใจลำบากก็ใช้เครื่องช่วยหายใจจนกว่าจะพ้นขีดอันตราย

ในประเทศที่มีการระบาดของโรคนี้ ได้มีการทดลองให้ยาต้านไวรัส (เช่น interferon, ribovirin, oseltamivir, lopinavir/ritonavir) ร่วมกับยาสเตียรอยด์ และบางรายให้ยาปฏิชีวนะเพื่อควบคุมอาการปอดอักเสบ วิธีการเหล่านี้ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิผลของการรักษา

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีไข้หลังจากสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือเพิ่งกลับจากการเดินทางไปยังประเทศหรือเขตพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคนี้ ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคซาร์ส ควรดูแลรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

การป้องกัน

1. ดูแลสุขภาพทั่วไปให้แข็งแรง โดยการออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ อย่ากินยาชุดหรือยาลูกกลอนที่มีสารสเตียรอยด์

2. หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศหรือเขตพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคนี้ หากเลี่ยงไม่ได้ควรสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่ร่วมกับผู้อื่น หรือในที่ที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่เพื่อชะเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนมากับมือโดยไม่รู้ตัว หลีกเลี่ยงการใช้มือขยี้ตา แคะจมูก หรือนำนิ้วมือเข้าปาก ใช้ช้อนกลางในการกินอาหารร่วมกับผู้อื่น และอย่าใช้ผ้าเช็ดตัวหรือผ้าเช็ดหน้าร่วมกับผู้อื่น

3. ถ้าหากมีผู้ป่วยซาร์สระบาดภายในประเทศเรา ก็ควรปฏิบัติเช่นเดียวกับที่กล่าวข้างต้น และถ้ามีคนในบ้านมีอาการไข้ที่ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดก็ควรรีบพาไปโรงพยาบาล ควรหลีกเลี่ยงการจับมือกับผู้ป่วย ถ้าจำเป็นต้องดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ควรสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่ หลีกเลี่ยงการใช้ข้าวของเครื่องใช้กับผู้ป่วย ควรนอนแยกห้องกับผู้ป่วย เปิดประตูหน้าต่างให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทได้สะดวก ทำความสะอาดบ้าน เครื่องเรือน เครื่องใช้ โทรศัพท์ อย่างน้อยวันละครั้งด้วยผ้าชุบน้ำสบู่หรือผงซักฟอก

ป้องกันโรคซาร์สด้วยการล้างมือและสวมหน้ากากอนามัย

ข้อแนะนำ

1. โรคนี้มีความรุนแรงมากน้อยแตกต่างกันไป ร้อยละ 80-90 ของผู้ป่วยจะมีอาการไม่รุนแรง ซึ่งจะหายได้เป็นปกติภายใน 2-3 สัปดาห์

ประมาณร้อยละ 10-20 จะมีอาการหนัก คือ หายใจลำบาก ซึ่งต้องใช้เครื่องช่วยหายใจประคับประคองจนกว่าจะพ้นขีดอันตราย กลุ่มนี้มักจะต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนาน 2-3 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย

ประมาณร้อยละ 10 จะเสียชีวิต กลุ่มนี้มักมีอายุมากกว่า 40 ปี หรือมีภูมิต้านทานโรคต่ำ เช่น เป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไต หรือโรคประจำตัวอื่น ๆ พบว่าเด็กอายุน้อยกว่า 12 ปีที่เป็นโรคซาร์สมักจะเป็นไม่รุนแรงและหายได้เอง ส่วนผู้ป่วยที่อายุมากกว่า 65 ปีมีอัตราตายถึงร้อยละ 50

2. ในช่วงที่มีการระบาดของโรคนี้ ผู้ที่เดินทางจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคควรเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดอย่างน้อย 10 วัน ถ้าเป็นไปได้ควรวัดไข้ด้วยปรอททุกวัน ถ้าพบว่ามีไข้ก็ควรรีบไปปรึกษาแพทย์

3. แพทย์และพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยซาร์ส จะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด (เช่น สวมถุงมือ ใส่เสื้อกาวน์ ใส่แว่นตาป้องกันการติดเชื้อ หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่) เพราะมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากผู้ป่วยอย่างมาก

4. ถึงแม้ในปัจจุบันไม่มีรายงานการเกิดผู้ป่วยซาร์สรายใหม่มานานหลายปี แต่ควรติดตามเฝ้าระวัง หากมีผู้ป่วยเกิดขึ้นใหม่จะได้ระมัดระวังหาทางป้องกันไม่ให้เป็นโรคร้ายแรงชนิดนี้

15
motor show 2025: โตโยต้ามาพร้อมแนวคิด "บริการครบ จบ เหมือนยกโชว์รูมมา" พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการครบวงจร รวมถึงข้อเสนอสุดพิเศษ ภายใต้แนวคิด บริการครบ จบ เหมือนยกโชว์รูมมา โดยผู้เยี่ยมชมบูธจะได้สัมผัสกองทัพรถยนต์กว่า 11 รุ่น ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งทัพรถยนต์ HEV รถยนต์นั่ง รถอเนกประสงค์สายครอบครัว และรถกระบะ และในปีนี้ ยังอำนวยความสะดวกให้ท่านเป็นเจ้าของรถยนต์โตโยต้าได้ง่ายขึ้น ด้วยบริการเช็กเครดิตไว รู้ผลสินเชื่อได้ภายในงาน พร้อมข้อเสนอพิเศษ ฟีล So Good ดีล So Great ลุ้นรางวัลใหญ่ Mid-Year Wonder ลุ้นเชียร์ ลุยช็อป บินลัดฟ้าชมศึกแดงเดือด ไกลถึงประเทศอังกฤษ ที่บูธโตโยต้าในงาน Bangkok International Grand Motor Sale 2024 ระหว่างวันที่ 23 สิงหาคม ถึง 1 กันยายน ศกนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

นายณัทธร กล่าวต้อนรับสื่อมวลชนสู่บูธโตโยต้า ว่า “ปีนี้เรามาพบกับท่านด้วยแนวคิด “บริการครบ จบ เหมือนยกโชว์รูมมา” ให้บริการลูกค้าทุกท่านแบบ one stop service นำเสนอรถโตโยต้าหลากหลายรุ่น และบริการการขายแบบครบวงจร เริ่มจากกลุ่มรถยนต์ไฮบริด นำทัพโดย Yaris Cross และ Corolla Cross ซึ่งเป็นรุ่นยอดนิยม ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าตั้งแต่เปิดตัวมา รวมถึงรถยนต์ HEV รุ่นอื่นๆ อีกหลายรุ่น เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฮบริดในประเทศไทยตั้งแต่พ.ศ. 2552  เป็นต้นมา ปัจจุบันโตโยต้ามียอดขายรถยนต์ไฮบริดสะสมกว่า 217,000 คัน (ยอดจำหน่ายสะสมถึงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2567) คิดเป็นสัดส่วน 54% ของตลาดรถยนต์ไฮบริดทั้งหมดในประเทศไทย ลูกค้าทุกท่านสามารถมั่นใจในรถไฮบริดทุกรุ่นจากโตโยต้า ด้วยการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดยาวนานถึง 10 ปี”

 “และเรายังมีรถยนต์ยอดนิยมอีกหลายรุ่น ทั้ง Yaris ATIV, Yaris Hatchback และ Fortuner อีกทั้ง ยังมีรถยนต์อเนกประสงค์ 7  ที่นั่ง ที่สุดของเพื่อนคู่ใจสายครอบครัวระดับพรีเมียม INNOVA ZENIX และ Veloz มาให้ชมภายในงานนี้ด้วย ในส่วนของรถกระบะ นำทัพโดย Hilux Revo รุ่นปรับปรุงใหม่ ปี 2024 เริ่มจาก Hilux Revo GR-Sport 4x4 กระบะรุ่นเรือธงสมรรถนะเหนือชั้น ที่ผ่านบทพิสูจน์บนเส้นทางสุดทรหดในประเทศออสเตรเลีย และสามารถคว้าชัยชนะจากการแข่งขันสุดโหดในรายการ Asia Cross Country ที่เพิ่งจบไปเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา รุ่นต่อมาคือ Hilux Revo-D Prerunner และ Hilux Revo Smart Cab Prerunner ที่โดดเด่นด้วยช่วงล่างซับแรงกระแทกดีเยี่ยม มอบความสบายให้ทุกการเดินทาง และยังมี Hilux Revo Z-edition แต่งสนุก ถูกใจสายแต่งรถแน่นอนครับ สำหรับผู้ประกอบการต่างๆ เราขอนำเสนอ Hilux Champ กับแพ็กเกจต่อเติมรถ สร้างธุรกิจเคลื่อนที่ในฝันได้ ครบ จบ ในที่เดียว”

นายณัทธร กล่าวต่อไปว่า “เมื่อทุกท่านมาที่บูธโตโยต้า นอกจากท่านจะได้พบรถยนต์ที่มีคุณภาพด้าน QDR และราคาขายต่อที่ดีแล้ว เราพร้อมที่จะดูแลทุกท่านด้วยเครือข่ายศูนย์บริการถึง 456 แห่งทั่วประเทศ เพื่อมอบความอุ่นใจให้ผู้ใช้งานตลอดการเดินทาง ในงานนี้เรายังเตรียมข้อเสนอพิเศษดอกเบี้ย 0% หรือเลือกผ่อนเริ่มต้นอัตราพิเศษ พร้อมมอบฟรีประกันชั้น 1 และสิทธิพิเศษที่หลากหลายในรถทุกรุ่น รวมถึงบริการด้านสินเชื่อพิเศษจาก Toyota Leasing ประเทศไทยและสถาบันการเงินอื่น เพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถโตโยต้าได้ง่ายๆ ผ่านคอนเซ็ปต์ เอกสารครบ ผ่านเงื่อนไข รับรถไว”

    “ยิ่งไปกว่านั้น ลูกค้ายังได้สิทธิลุ้นทริปร่วมชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่ประเทศอังกฤษ และรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ในโค้งสุดท้ายของแคมเปญพิเศษ Mid-Year Wonder และสำหรับลูกค้าที่กำลังจะเปลี่ยนรถคันใหม่ ท่านสามารถเลือกซื้อรถและนำรถคันเดิมเข้ารับการประเมินราคาฟรี โดยผู้เชี่ยวชาญจาก Toyota Sure ภายในบูธของโตโยต้าอีกด้วย สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านอีกครั้ง ที่สนับสนุนโตโยต้าเป็นอย่างดีมาตลอด ผมเชื่อว่ารถโตโยต้าทุกรุ่น และข้อเสนอสุดพิเศษในงาน จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายได้อย่างแน่นอน” นายณัทธร กล่าวปิดท้าย

 เป็นเจ้าของรถโตโยต้า พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษทุกรุ่น

นำโดยรถยนต์ไฮบริดยอดนิยมหลากหลายรุ่น

 Yaris Cross
รถไฮบริด SUV CROSSOVER ยอดนิยม ผสานคอนเซ็ปต์ URBAN X ADVENTURE ตอบโจทย์การใช้งานคนเมืองที่ใช้ชีวิตแบบสุดๆ การันตีด้วยรางวัล “ไฮบริด SUV ยอดเยี่ยมแห่งปี” ในรุ่นขนาดไม่เกิน 1,500 ซีซี จากรางวัล  Car of The Year 2024 มาพร้อมกับการออกแบบภายนอกที่ของแรง ทรงพลัง ห้องโดยสารภายในกว้างขวาง ตกแต่งด้วยวัสดุบุนุ่ม พร้อมเทคโนโลยี Quole Module ลดความร้อนบนผิวสัมผัส และไฟสร้างบรรยากาศภายใน ขับสนุกสุดๆด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด 1.5 ลิตร ประหยัดน้ำมันถึง 26.3 กม./ลิตร มาพร้อมเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมตัวกรองฝุ่น PM 2.5 ลำโพง Pioneer 6 ตำแหน่ง อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay & Android Auto แบบไร้สาย ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติฯลฯ และอุ่นใจด้วยระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense

Yaris Cross ราคาเริ่มต้น 789,000 บาท*,** พิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 - 31 สิงหาคม 2567
•    รับดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 1.69% หรือ ส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษ สูงสุด 0.50% หรือ
ผ่อนเริ่มต้นเพียง 7,984 บาท

 Corolla Cross
อีกหนึ่ง SUV ยอดนิยมอีกรุ่นของโตโยต้า การันตีด้วยรางวัล “ไฮบริด SUV ยอดเยี่ยมแห่งปี” ในรุ่นขนาดไม่เกิน 1,800 ซีซี โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว และแข็งแกร่ง ดีไซน์กระจังหน้าแบบ Multi-Dimensional ไฟหน้าแบบ LED Crystalized Headlamp และ ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ Sequential เหนือระดับด้วยหลังคา Frameless Panoramic Roof พร้อมม่านบังแดดปรับไฟฟ้า ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว แบบ HD รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ช่องต่อ USB แบบ type C พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยที่เหนือกว่า

 Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 999,000 บาท*,** พิเศษ สำหรับเจ้าของรถโตโยต้า เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 - 31 สิงหาคม 2567
•    ดอกเบี้ย 0.89% พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD

 INNOVA ZENIX
ยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับพรีเมียมสำหรับครอบครัว ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริด 2.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 186 แรงม้า ประหยัดน้ำมันสูงสุด 21.3 กม./ลิตร ภายในกว้างขวาง สะดวกสบาย พร้อมฟังก์ชันระดับพรีเมียม อาทิ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารแถวสองปรับไฟฟ้าแบบ Captain Seat พร้อมเบาะรองน่องปรับไฟฟ้า เปิดมุมมองกว้างด้วยหลังคา PANORAMIC ROOF และมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกล้ำสมัยรอบคัน เพื่อความสะดวกสบาย และอรรถรสในการขับขี่ ในด้านของความปลอดภัย มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยระดับโลก Toyota Safety Sense

 INNOVA ZENIX ราคาเริ่มต้น 1,379,000 บาท*,**พิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 - 31 สิงหาคม 2567
•    ดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% หรือ ประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD

 CAMRY
รถพรีเมียมซีดานขนาดกลาง อีกความภาคภูมิใจของโตโยต้า การันตีด้วยรางวัล “รถยนต์ซีดานไฮบริดขนาดกลางยอดเยี่ยมแห่งปี” และ “รถยนต์ซีดานขนาดกลางยอดเยี่ยมแห่งปี” ในรุ่นขนาดไม่เกิน 2,500 ซีซี ให้ภาพลักษณ์ระดับผู้นำ ด้วยดีไซน์สปอร์ต หรูหรา ผ่านการออกแบบอย่างพิถิพิถัน ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก อาทิ เบาะที่นั่งด้านหลังปรับเอนไฟฟ้า ระบบปรับอากาศแยกอิสระ 3 โซน เครื่องยนต์ Hybrid Dynamic Force 2.5 ลิตร ทรงพลังแต่นุ่มนวล พร้อมสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม โครงสร้างแบบ TNGA มั่นใจทุกการเดินทาง ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก Toyota Safety Sense

CAMRY ราคาเริ่มต้น 1,475,000 บาท*,** พิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 - 31 สิงหาคม 2567
•    รุ่น 2.5 Premium Luxury และ 2.5 HEV Premium : ดอกเบี้ยพิเศษ 1.49% พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD
•    รุ่น 2.5 Premium และ 2.5 Sport : ดอกเบี้ยพิเศษ 1.89% พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD, ดอกเบี้ยพิเศษ 1.49% พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD
พิเศษ เติมสไตล์ให้กับซีดานหรูลุคผู้นำ ด้วยชุดแต่งจาก TCD Asia
•    ชุดแต่ง CAMRY MODELLISTA ใหม่ ราคา 41,000 บาท

 COROLLA ALTIS
ฟีลให้สุด ทุกความรู้สึก กับโคโรลล่า อัลติส ที่มาพร้อมกับกระจังหน้าดีไซน์ POLYGON ล้อแมกซ์17 นิ้ว สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิ วิทยุหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สาย รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto สัมผัสความแรง ด้วยเครื่องยนต์ขุมพลังไฮบริด 1.8 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและเกียร์ E-CVT ที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้มากถึง 23.3 กม. ต่อลิตร เติมความสนุกสนานในการขับขี่ ด้วยการปรับจูนพวงมาลัยไฟฟ้าใหม่ เข้าโค้งได้อย่างเฉียบคม ปลอดภัยสูงสุดด้วยระบบ Toyota Safety Sense

COROLLA ALTIS ราคาเริ่มต้น 894,000 บาท*,** พิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 - 31 สิงหาคม 2567
•    รุ่น HEV Premium และ 1.8 Sport
-    ดอกเบี้ยพิเศษ 1.55% พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD
•    รุ่น 1.6G
-    ทางเลือกที่ 1: ดอกเบี้ยพิเศษ 1.55% พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD
-    ทางเลือกที่ 2: ผ่อนเริ่มต้น 9,709 บาท/เดือน พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD

 มั่นใจสูงสุดกับระบบไฮบริด ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษและศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ*
ขยายระยะเวลารับรองแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี (ช่วงปีที่ 6-10)
รับประกันระบบไฮบริด 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด

 เลือกเป็นเจ้าของรถยนต์ยอดนิยม  ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซลอีกหลายรุ่น
อาทิ รถยนต์นั่ง Yaris และ Yaris ATIV รถครอบครัวอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง VELOZ รถยนต์อเนกประสงค์ PPV Fortuner GR Sport และ Fortuner Legender

 Yaris ATIV
 Let’s Pop Together Popular กับอีโคคาร์ยอดนิยม โตโยต้ายาริสเอทีฟ รถ Compact Sedan ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี การันตีด้วยรางวัล “รถซีดานยอดเยี่ยมแห่งปี” ในรุ่นขนาดไม่เกิน 1,300 ซีซี ดีไซน์ Fastback ปราดเปรียว ทรงพลัง และสง่างาม ไฟเลี้ยว Sequential และไฟหน้าแบบ LED ภายในห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวาง พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ครบครันทั้ง Apple CarPlay,  เครื่องเสียงขนาดหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว, กล้องมองรอบคัน Panoramic View Monitor, ไฟสร้างบรรยากาศ 64 เฉดสี และระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense

 Yaris ATIV ราคาเริ่มต้น 549,000 บาท*,** พิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 - 31 สิงหาคม 2567
•  ดอกเบี้ยพิเศษ 0% หรือ ผ่อนเริ่มต้น 5,336 พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD
•  ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด

 พิเศษ ชุดแต่งสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก TCD Asia
•    ชุดแต่ง ATIV,Modellista ราคา 48,500 บาท
•    ชุดแต่ง ATIV.PRESTO ราคา 17,500 บาท
•    ชุดแต่ง ATIV.CHIARO ราคา 8,690 บาท
•    ชุดแต่ง ATIV.LUSSO ราคา 19,900 บาท

 Yaris
รถอีโคคาร์ Hatchback ยอดนิยม การันตีด้วยรางวัล “รถแฮทช์แบ็คยอดเยี่ยมแห่งปี” ในรุ่นขนาดไม่เกิน 1,300 ซีซี โฉบเฉี่ยว ดีไซน์สปอร์ต ด้านหน้าแบบ HAMMERHEAD ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ใช้งานได้สะดวกรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ให้สนุกไปกับความบันเทิงเต็มพิกัด เพิ่มความมั่นใจ ด้วยระบบความปลอดภัยระดับโลก Toyota Safety Sense

Yaris ราคาเริ่มต้น 559,000 บาท*,** พิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 - 31 สิงหาคม 2567
• ดอกเบี้ยพิเศษ 0% หรือ ผ่อนเริ่มต้น 5,433 บาท/เดือน พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD
•  ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด

พิเศษ เปิดโลกใหม่ด้วยสไตล์ที่แสดงออกถึงตัวตน ด้วยชุดแต่งสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก TCD Asia
•    ชุดแต่ง X-URBAN ราคา 44,600 บาท ผ่อนเพียง 493 บาท/เดือน
•    ชุดแต่ง LUSSO ราคา 19,990 ผ่อนเพียง 294 บาท/เดือน
•    ชุดแต่ง PRESTO ราคา 16,5000 ผ่อนเพียง 243 บาท/เดือน
•    ชุดแต่ง CHIARO ราคา 9,690 ผ่อนเพียง 143 บาท/เดือน

 VELOZ
ยนตรกรรมอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ดีไซน์ล้ำสมัย ห้องโดยสารกว้างขวางเทียบเท่ารถระดับ C-segment เบาะที่นั่งโดยสารปรับได้ 7 แบบ แผงหน้าปัด ปรับได้ 4 รูปแบบ มาพร้อมเครื่องยนต์ Dual VVT-i  1.5 ลิตร ประสานกับเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อม Sequential Shift ประหยัดน้ำมันถึง 17.9 กม/ลิตร มั่นใจปลอดภัยทั้งครอบครัว ด้วยระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense และกล้องมองรอบคัน

 VELOZ ราคาเริ่มต้น 795,000 บาท*,** พิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 - 31 สิงหาคม 2567
• ดอกเบี้ยพิเศษ 0% สูงสุด 60 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD
• พร้อมช่วยผ่อน 4,000 บาท/เดือน เดือนที่ 1 – 6
• ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด*

  Fortuner GR Sport
โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว ทรงพลัง สนุกสนานกับสมรรถนะการขับขี่เหนือชั้นด้วยเครื่องยนต์ 2.8 GD Super Power ปรับจูนใหม่ แรงสุด 224 แรงม้า และช่วงล่าง Monotube และให้ประสบการณ์ขับขี่ที่ดียิ่งกว่า ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความบันเทิง อุปกรณ์ตกแต่ง GR Sport อาทิ Smart Key - Push start GR – คันเร่ง เบรกอะลูมิเนียมดีไซน์สปอร์ตพร้อมคาลิเปอร์สีแดงสด ให้ผู้ขับขี่ได้ปลดปล่อยจิตวิญญาณความสปอร์ต และตัวตนที่พิเศษไม่เหมือนใคร มั่นใจด้วยระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense

Fortuner GR Sport ราคาเริ่มต้น 1,969,000 บาท*,**

 Fortuner Legender
รุ่นยอดนิยม การันตีด้วยรางวัล “รถยนต์อเนกประสงค์ PPV ยอดเยี่ยมแห่งปี” ในรุ่นขนาดไม่เกิน 3,200 ซีซี เสริมภาพลักษณ์หรูหราสไตล์ผู้นำ มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ เครื่องยนต์ 2.4 และ 2.8 GD Super Power ช่วงล่างพร้อม Monotube ช่วยซับแรงสั่นสะเทือนพร้อมเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ให้สนุกมากขึ้น วางใจได้ในทุกการเดินทาง กับระบบความปลอดภัยระดับโลก Toyota Safety Sense นอกจากนี้ยังให้ความความคุ้มค่า ประหยัดน้ำมัน และมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมระดับยูโร 5

 Fortuner Legender ราคาเริ่มต้น 1,643,000 บาท*,** พิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 - 31 สิงหาคม 2567
•  ดอกเบี้ยพิเศษ 0.89% หรือ ผ่อนเริ่มต้น 17,330 บาท พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD

 พบกระบะตระกูลไฮลักซ์รุ่นปรับปรุงใหม่  Hilux Revo และ Hilux CHAMP
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถกระบะ และผู้ประกอบการธุรกิจ พบกระบะตระกูลไฮลักซ์รุ่นปรับปรุงใหม่ ปี 2567 พร้อมสมรรถนะและการใช้งานที่หลากหลายยิ่งขึ้น เริ่มด้วย Hilux Revo GR Sport 4x4 ที่ผ่านการพิสูจน์ความแข็งแกร่งบนสมรภูมิระดับโลก ในรายการ Asia Cross Rally 2024 สำหรับผู้ชื่นชอบการแต่งรถ เชิญพบกับ Hilux Revo-D Z-Edition และขอแนะนำ Hilux Champ กระบะทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานของผู้ประกอบการธุรกิจเคลื่อนที่ และการใช้งานส่วนบุคคล

 Hilux Revo GR Sport 4x4
กระบะสปอร์ตออฟโรดแรงบันดาลใจจาก DAKAR Rally ที่เป็นผลจากความร่วมมือในการพัฒนาของโตโยต้าประเทศออสเตรเลีย และโตโยต้าประเทศไทย โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ต และการตกแต่งเอกลักษณ์แบบ GR ผ่านการพิสูจน์สมรรถนะแบบเหนือขั้น ด้วยสภาวะสุดทรหดของประเทศออสเตรเลีย พร้อมลุยในทุกสภาวะการขับขี่ ด้วยเครื่องยนต์ GD Super Power ขนาด 2.8 ลิตร ให้กำลัง 224 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ช่วงล่างหน้าหลังพร้อมโช้คอัพ Monotube ระบบล็อกเฟืองท้ายแบบ Rear Differential Lock ล้ออัลลอยสีดำเงาขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง BFGoodrich แบบ All-Terrain นอกจากนี้ยังมี อุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย และมั่นใจได้ในทุกเส้นทาง ด้วยระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense

Hilux Revo GR Sport 4x4 ราคาเริ่มต้น 1,479,000 บาท*,** พิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 - 31 สิงหาคม 2567
• ดอกเบี้ยพิเศษ 1.59% หรือฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD
• ขยายเวลารับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด

Hilux Revo-D Prerunner และ Hilux Revo Smart Cab Prerunner
กระบะไลฟ์สไตล์ ใช้งานได้หลายวัตถุประสงค์ ตอบโจทย์ทั้งในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการใข้งานเดินทางไกล เพราะมีช่วงล่าง Superflex นุ่มสบาย ให้ทุกการใช้งานสะดวกสบาย มั่นใจทุกสภาพถนน พร้อมห้องโดยสารกว้างนั่งสบาย ระบบความปลอดภัยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายครบครัน

Hilux Revo-D Prerunner ราคาเริ่มต้น 881,000 บาท*,** พิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 - 31 สิงหาคม 2567
• ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.40% หรือผ่อนเริ่มต้น 8,805 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD
• ขยายเวลารับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด

 Hilux Revo Smart Cab Prerunner ราคาเริ่มต้น 775,000 บาท*,** พิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 - 31 สิงหาคม 2567
• ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.39% หรือผ่อนเริ่มต้น 7,939 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD
• ขยายเวลารับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด

 Hilux Revo-D Z-Edition
แซดให้โลกเห็น ด้วยกระบะสปอร์ตผสมผสานความโฉบเฉี่ยว เรียบหรู มาพร้อมดีไซน์กระจังหน้าใหม่ ไฟตัดหมอก ไฟหน้ารมดำ พร้อมกับเครื่องยนต์รองรับมาตฐาน Euro 5 พร้อมกับระบบความปลอดภัย ทั้ง VSC และ HAC ในทุกรุ่น พิเศษ เลือกเสริมออพชั่นด้วยชุดแต่ง Z-Runner มาพร้อมกับสเกิร์ตหน้าดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอย 18 นิ้ว บันไดข้าง และ สติ๊กเกอร์ Z-Runner ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการตกแต่งรถ เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และแสดงออกถึงตัวตนของแต่ละบุคคล

Hilux Revo-D Z-Edition ราคาเริ่มต้น 744,000 บาท*,** พิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 - 31 สิงหาคม 2567
• ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.55% หรือผ่อนเริ่มต้น 7,417 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD
• ขยายเวลารับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด

Hilux Champ
รถกระบะมหาชนขวัญใจคนไทยคันใหม่ การันตีด้วยรางวัล “Best Innovation Pickup” มาพร้อมราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย ครอบคลุมการใช้งานครบครันทั้งในเชิงธุรกิจ และการใช้งานส่วนบุคคล ด้วยทางเลือกรุ่นย่อยที่หลากหลายทั้งแบบช่วงล้อสั้นและยาว เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้งเบนซินและดีเซล คล่องตัวด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบเท่ารถยนต์นั่งขนาดเล็ก และยังแข็งแรงทนทาน ด้วยพื้นฐานโครงสร้างและเครื่องยนต์เดียวกับไฮลักซ์ รีโว่ นำมาออกแบบด้วยแนวคิด “Monozukuri” หรือ "Easy for Conversion" ง่ายต่อการนำไปดัดแปลง พิเศษสุด กับประสบการณ์ในการซื้อแบบใหม่ ด้วยโซลูชั่นในการดัดแปลงตัวรถหลากหลายรูปแบบ ที่ให้ลูกค้าเลือกต่อเติมรถ โดยพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการ ได้ครบ จบ ในที่เดียว พร้อมแพ็กเกจประกันภัย Toyota Care PHYD บริการหลังการขาย ที่ครอบคลุมทั้งการใช้งานในธุรกิจและการใช้งานส่วนบุคคล รวมถึงการบริการที่สะดวก รวดเร็ว ด้วยบริการ Express Lane และการให้บริการนอกสถานที่แบบครบวงจร ด้วย Toyota Mobile Service

 Hilux Champ ราคาเริ่มต้น 459,000 บาท*,** พิเศษ เมื่อซื้อพร้อมดัดแปลงต่อเติมเพื่อธุรกิจทุกรูปแบบจากศูนย์โตโยต้า
ภายในวันที่ 1 สิงหาคม 2567 - 31 สิงหาคม 2567
• รับดอกเบี้ยต่ำสุด 1.55%

หน้า: [1] 2 3 ... 17
Tage: ลงประกาศฟรี ติดอันดับ Google โฆษณาฟรี ประกาศฟรี ขายฟรี ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายที่ดินฟรี ลงประกาศขายคอนโดฟรี ขายรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สถานที่ท่องเที่ยว ลงโฆษณาฟรี google