แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 14
1
ความผิดปกติของฟันในเด็กแบบไหนที่ควรจัดฟันเด็ก

สุขภาพช่องปากและฟันสำหรับเด็ก เป็นสุขอนามัยเบื้องต้นที่เด็กจะต้องฝึกดูแลรักษาความสะอาด ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องคอยแนะนำและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลรักษาความสะอาดของเด็กให้เด็กได้เข้าใจและแปรงฟันอย่างถูกต้อง เพื่อที่จะได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย การที่เด็กมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และช่วยในเรื่องของพัฒนาการของเด็กด้วย เพราะถ้าเด็กมีสุขภาพฟันที่ดี

เด็กก็จะมีสุขอนามัยที่ดี สามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น เช่นการบดเคี้ยวอาหาร ก็จะส่งผลทำให้เด็กได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและเต็มที่ ทำให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีด้วย อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรที่จะพาเด็กไปพบทันตแพทย์ ก่อนที่ฟันน้ำนมจะขึ้นครบทั้งยี่สิบซี่ หรือเด็กมีอายุระหว่าง 2-3ขวบ เมื่อไปพบทันตแพทย์ครั้งแรกนั้น ทันตแพทย์จะพุดคุยกับเด็กก่อน เพื่อสร้างความสนิทสนม และสร้างทัศนคติที่ดีในเรื่องของการดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟันให้เด็ก จากนั้นก็จะแนะนำเครื่องมือในการทำฟันต่างๆ

เพื่อให้เด็กเกิดความคุ้นเคยและไม่กลัว จากนั้นจึงจะตรวจฟันเด็ก และให้คำแนะนำกับผู้ปกครองเกี่ยวกับวิธีรักษาความสะอาดฟันของเด็ก เพื่อที่จะได้ให้เด็กฝึกการแปรงฟันอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันฟันผุ เพราะถ้าหากเด็กเกิดฟันผุ ก็จะส่งผลเสียไปถึงอนาคตได้ ที่สำคัญที่สุดพ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะสังเกตฟันของเด็ก ถ้าหากเด็กมีปัญหาก็ควรที่จะพาเด็กเข้ารับการรักษาหรือเข้ารับการจัดฟันเพื่อแก้ไขปัญหา แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าปัญหาฟันของเด็กแบบไหนที่เหมาะที่จะเข้ารับการจัดฟันในเด็ก วันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงปัญหาฟันในเด็กที่เหมาะสมที่จะเข้ารับการจัดฟัน เพื่อที่จะได้เป็นแนวทางในการพาเด็กเข้ารับการจัดฟัน เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง

 การเกิดฟันผุในเด็กนั้น หรือปัญหาที่มีความรุนแรงถึงขั้นสูญเสียฟัน ต้องบอกว่า หลายปัญหาอาจลดความรุนแรงได้ หากได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ เช่น อาการฟันสบคร่อม ที่ฟันล่างสบคร่อมทับฟันบน ในเด็กหากทิ้งไว้ไม่รักษา ขากรรไกรอาจมีขนาดผิดปกติ ทำให้ใบหน้าเว้า หน้าเบี้ยว และอาจทำให้เกิดความผิดปกติ ที่ข้อต่อขากรรไกรได้ รวมไปถึงถ้าหากเด็กมีภาวะฟันแท้หาย หรือขึ้นไม่ครบ ควรพามาพบทันตแพทย์จัดฟัน เพราะอาจช่วยดึงฟันที่ฝังให้งอกขึ้นมาได้

เด็กจะได้ไม่ต้องเป็นคนฟันหลอ หรือไม่ต้องใส่ฟันปลอม ไม่ต้องใส่รากฟันเทียม ซึ่งการจัดฟันในเด็กนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถพาเด็กเข้ามารักษาด้วยการจัดฟันในเด็กได้ตั้งแต่อายุ 4-15 ปี ถ้าหากพบปัญหาการสบฟันที่ผิดปกติ เด็กวัยนี้ก็สามารถจัดฟันได้แล้ว สำหรับในแง่ของปัญหาฟันในเด็กที่เหมาะสมที่ควรเข้ารับการจัดฟันก็มีสัญญาณบ่งบอกที่บอกว่าควรเข้ารับการจัดฟัน เพราะในวัยเด็ก เป็นวัยที่เหมาะสมเข้ารับการจัดฟันเพื่อแก้ไขปัญหาความผิดปกติ คือ ปัญหาฟันหน้ายื่น ปัญหาการที่ฟันสบกันผิดปกติ ฟันซ้อน ฟันขึ้นผิดตำแหน่ง ฟันน้ำนมหลุดเร็วเกินไป หรือหลุดช้าเกินไป หรือต้องเสียฟันน้ำนมแบบไม่ปกติ

ฟันหรือลักษณะขากรรไกร ดูผิดสัดส่วน เด็กยังติดการดูดนิ้วจนอายุเกิน 5 ปี มีอาการกัดหรือบดเคี้ยวอาหารลำบาก เด็กชอบหายใจทางปาก นี่คือสัญญาณที่บ่งบอกถึงความผิดปกติที่ควรที่จะเข้ารับการจัดฟันเพื่อแก้ไขปัญหา หากปล่อยทิ้งไว้อาจจะทำให้ปัญหาที่มีอยู่เกิดความรุนแรงขึ้นได้ และอาจจะส่งผลต่อฟันบริเวณใกล้เคียงด้วย ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการตรวจฟันเป็นประจำและถ้าหากมีสัญญาณบ่งบอกถึงความผิดปกติก็ควรพาเด็กเข้าพบทันตแพทย์จัดฟันทันที เพื่อเข้ารับการแก้ไข

 อย่างไรก็ตาม หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็กและเข้าปรึกษากับทันตแพทย์จัดฟันในเด็ก ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก เพราะทางเรามีทีมทันตแทพย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านทันตกรรมในเด็ก รวมไปถึงมีประสบการณ์ยาวนานด้านการจัดฟัน จึงสามารถให้คำปรึกษาได้อย่างถูกต้อง และแนะนำวิธีการดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากและฟันให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเกิดฟันผุตั้งแต่อายุยังน้อย ลดปัญหาการเกิดความผิดปกติของช่องปากและฟัน เพื่อให้เด็กได้สามารถใช้ชีวิตประจำวันหรือทำกิจกรรมต่างๆได้อย่างเต็มที่

2
หมอออนไลน์: ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน (Acute pancreatitis)

ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน เป็นโรคที่พบได้ปีละประมาณ 13-45 คน ต่อประชากร 100,000 คน  นับเป็นโรคที่ต้องเข้าพักรักษาในโรงพยาบาลที่พบบ่อยโรคหนึ่ง เนื่องจากเป็นภาวะร้ายแรงและมีอัตราตายค่อนข้างสูง

พบได้ในคนทุกวัย แต่จะพบได้บ่อยขึ้นตามอายุที่มากขึ้น พบบ่อยในผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์จัด ผู้ที่สูบบุหรี่ ผู้ที่มีภาวะอ้วน เป็นเบาหวาน และผู้ที่มีประวัติว่ามีคนในครอบครัวเป็นโรคนี้

สาเหตุ

การอักเสบมักเป็นผลมาจากการ "รั่ว" ของน้ำย่อย (เอนไซม์) ของตับอ่อนเองออกมาทำให้เนื้อเยื่อของตับอ่อนเกิดการอักเสบ ซึ่งอาจทำให้เนื้อเยื่อตับอ่อนบางส่วนเสียหาย เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมาได้

สาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่ การเป็นนิ่วน้ำดี (ที่อุดกั้นทางเดินน้ำดี) การดื่มสุราจัด และภาวะไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงแบบรุนแรง (มีระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด มากกว่า 1,000 มก.ต่อ 100 มล.) 

ส่วนน้อยอาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น การติดเชื้อ (เช่น คางทูม อีสุกอีใส เริม ตับอักเสบจากไวรัสบี เอชไอวี โรคพยาธิไส้เดือน เป็นต้น) การได้รับบาดเจ็บที่ช่องท้อง การผ่าตัดช่องท้อง การส่องกล้องท่อน้ำดี (ERCP) การใช้ยาบางชนิด (เช่น สเตียรอยด์ เอสโทรเจน เตตราไซคลีน กลุ่มยาซัลฟา ยาขับปัสสาวะประเภทไทอาไซด์ ยาลดความดันโลหิต-กลุ่มยาต้านเอซ) การสูบบุหรี่ รังสีบำบัด มะเร็งตับอ่อน ซิสติกไฟโบรซิส (cystic fibrosis) เป็นต้น

นอกจากนี้ อาจเกิดร่วมกับภาวะแคลเซียมในเลือดสูงเนื่องจากต่อมพาราไทรอยด์ทำงานเกิน (hyperparathyroidism) หรืออาจเกิดจากปฏิกิริยาภูมิต้านตัวเอง เกิดตับอ่อนอักเสบ (autoimmune pancreatitis) ร่วมกับโรคอื่น ๆ เช่น โรคปวดข้อรูมาตอยด์ ภาวะขาดพาราไทรอยด์ (hypoparathyroidism) เป็นต้น

บางรายอาจไม่พบสาเหตุที่แน่ชัด


อาการ

ส่วนใหญ่จะมีอาการปวดท้องรุนแรงตรงบริเวณใต้ลิ้นปี่ซึ่งมักจะเกิดขึ้นทันทีทันใด และปวดตลอดเวลา มักปวดร้าวไปที่หลัง เวลาไอ หายใจลึก ๆ เวลานอนหงายหรือเคลื่อนไหว หรือกดถูกหน้าท้องจะมีอาการเจ็บปวดมาก แต่จะรู้สึกปวดน้อยลงเวลาลุกขึ้นนั่งโก้งโค้ง หรือนั่งโน้มตัวไปข้างหน้า

ผู้ป่วยมักมีไข้ (อาจมีไข้ตั้งแต่แรก หรือมีไข้ขึ้นตามมาหลังจากมีอาการปวดท้องสักพักใหญ่ก็ได้) รวมกับอาการหนาวสั่น ใจเต้นเร็ว คลื่นไส้ อาเจียน และอาจมีอาการท้องอืดแน่น เบื่ออาหาร ท้องเดิน ร่วมด้วย 

ในรายที่เป็นรุนแรง อาจมีอาการอ่อนเพลียมาก หายใจเร็วกว่าปกติ เวลาลุกขึ้นยืนอาจมีอาการหน้ามืด เวียนศีรษะ และอาจมีภาวะช็อก (ใจหวิวใจสั่น กระสับกระส่าย เหงื่อออก ตัวเย็น)

บางรายอาจมีประวัติดื่มแอลกอฮอล์จัดหรือกินเลี้ยงมาก่อนสัก 12-24 ชั่วโมง


ภาวะแทรกซ้อน

ที่พบบ่อย ได้แก่ การเกิด "ถุงน้ำไม่แท้ (pseudocyst)" ในช่องท้อง ซึ่งมักเกิดในช่วง 1 เดือนหลังเกิดอาการตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน ถ้าถุงน้ำมีขนาดเล็ก อาจไม่มีอาการผิดปกติ (มักตรวจพบจากการถ่ายภาพช่องท้องด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์) บางรายอาจมีอาการท้องอืดแน่น มีลมในท้อง หรือปวดหน่วง ๆ หนัก ๆ ในท้อง แต่ถ้ามีถุงน้ำขนาดใหญ่ อาจเกิดการแตกมีเลือดออกหรือมีการติดเชื้อแทรกซ้อน เป็นอันตรายได้ ถุงน้ำขนาดเล็กมักจะค่อย ๆ ยุบหายไปได้เอง ส่วนถุงน้ำขนาดใหญ่ในผู้ป่วยบางรายอาจไม่ยุบหายไป

บางรายอาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียของตับอ่อน หรือหรือเกิดฝีตับอ่อน (pancreatic abscess) แทรกซ้อน ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะโลหิตเป็นพิษ มีอันตรายร้ายแรงได้

อาจพบภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงอื่น ๆ เช่น ปอดอักเสบ ภาวะปอดแฟบ ปอดบวมน้ำ (pulmonary edema) มีน้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด การหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน ไตวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ กล้ามเนื้อหัวใจตาย เลือดออกในกระเพาะอาหาร ลำไส้อุดกั้น เยื่อบุช่องท้องอักเสบ (จากการติดเชื้อแบคทีเรีย) เป็นต้น

นอกจากนี้ยังอาจพบการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในเลือด เช่น ภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง  ภาวะไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง เป็นต้น

บางอาจกลายเป็นตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง* ทำให้มีภาวะท้องเดินเรื้อรังเนื่องจากการดูดซึมผิดปกติ (เกิดภาวะขาดอาหาร น้ำหนักลด) อาจเป็นเบาหวาน เนื่องจากเซลล์ตับอ่อนถูกทำลาย ทำให้ผลิตอินซูลินได้น้อย และการอักเสบเรื้อรังอาจทำให้กลายเป็นมะเร็งตับอ่อนตามมาได้ 

ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงมักพบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 70 ปี มีภาวะอ้วนจัด ดื่มสุรา หรือสุบบุหรี่

*ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง (chronic pancreatitis) มีอาการปวดท้องเล็กน้อยตรงใต้ลิ้นปี่ หรือชายโครงด้านซ้าย และปวดร้าวไปที่บั้นเอวด้านซ้ายแบบเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง มักปวดหลังกินอาหาร  น้ำหนักตัวลด (เนื่องจากการร่างกายไม่สามารถดูดซึมสารอาหารได้ตามปกติ) มีอาการท้องเดินเรื้อรัง อุจจาระมีไขมันลอยฟ่อง ออกเป็นสีเทาหรือสีซีด อาจมีกลิ่นเหม็นกว่าปกติ อาจมีอาการดีซ่านร่วมด้วย และอาจตรวจพบระดับน้ำตาลในเลือดสูง บางรายอาจไม่มีอาการผิดปกติจนกว่าจะเกิดภาวะแทรกซ้อน


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

มีไข้ หน้าท้องกดเจ็บ อาจมีอาการท้องอืด เมื่อใช้เครื่องฟังตรวจท้องจะพบเสียงโครกคราก (bowel sound) ของลำไส้ลดลง 

อาจตรวจพบอาการดีซ่าน มีจ้ำเขียวขึ้นที่หน้าท้องหรือรอบ ๆ สะดือ  (เรียกว่า "Cullen's sign") หรืออาการมือเท้าเกร็งจากภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ

ในรายที่เป็นรุนแรงอาจตรวจพบภาวะช็อก (ชีพจรเบาเร็ว ความดันโลหิตต่ำ)

แพทย์จะวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการเจาะเลือดตรวจหาระดับเอนไซม์ที่ตับอ่อนผลิต ได้แก่ อะมิเลส (amylase) และไลเพส (lipase) ซึ่งอาจพบสูงกว่าปกติมากในวันแรก ๆ

แพทย์จะทำการตรวจเลือด (ดูระดับน้ำตาล ไตรกลีเซอไรด์ แคลเซียม ครีอะตินิน เป็นต้น) ตรวจปัสสาวะ ตรวจหาเชื้อในรายที่สงสัยมีการติดเชื้อ เอกซเรย์ปอด และทำการถ่ายภาพช่องท้อง (เช่น การตรวจอัลตราซาวนด์ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือ MRI) เพื่อตรวจหาความผิดปกติในช่องท้อง (เช่น นิ่วน้ำดี ลักษณะผิดปกติของตับอ่อนและท่อน้ำดี เป็นต้น)


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะรับตัวผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาล และให้การดูแลรักษา ดังนี้

ในระยะแรกให้ผู้ป่วยงดอาหารและดื่มน้ำจนกว่าอาการอักเสบจะทุเลา ให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำให้เพียงพอ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำและช็อก

ทำการรักษาเพื่อบรรเทาอาการและแก้ไขภาวะแทรกซ้อน เช่น ถ้าปวดท้องมาก ฉีดยาแก้ปวดชนิดออกฤทธิ์แรง, มีไข้สูงให้ยาลดไข้, ถ้ากินอาหารไม่ได้ ให้อาหารทางสายยาง หรือให้อาหารทางหลอดเลือดดำ, ให้ยาปฏิชีวนะในรายที่มีการติดเชื้อแบคทีเรีย, ให้เลือดในรายที่มีภาวะโลหิตจาง, ให้ออกซิเจนหรือใช้เครื่องช่วยหายใจในรายมีการหายใจผิดปกติ, ให้ยาลดน้ำตาลในรายที่มีน้ำตาลในเลือดสูง, ให้ยาลดไขมันในรายที่มีไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง เป็นต้น

เมื่อรักษาจนปลอดภัยดีแล้ว แพทย์จะทำการแก้ไขสาเหตุและภาวะผิดปกติอื่น ๆ ต่อไป เช่น ถ้าพบว่ามีนิ่วในถุงน้ำดีจะทำการผ่าตัดเอานิ่วออก, ในรายที่ติดสุราเรื้อรัง ก็จำเป็นต้องบำบัดให้เลิกสุรา, ในรายที่มีถุงน้ำไม่แท้ แพทย์อาจทำการใส่ท่อระบาย เป็นต้น

ผลการรักษา ขึ้นกับความรุนแรง ในรายที่มีอาการไม่รุนแรง มักจะรักษาให้หายได้ภายใน 1 สัปดาห์ ในรายที่มีอาการรุนแรง มักมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง และมีอัตราการเสียชีวิตสูง


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการไข้ร่วมกับปวดท้องรุนแรง หรือปวดท้องต่อเนื่องนานเกิน 6 ชั่วโมง ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว 

เมื่อตรวจพบว่าเป็นตับอ่อนอักเสบ ควรดูแลรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และติดตามการรักษากับแพทย์ตามนัด ที่สำคัญคือ การงดสุราและบุหรี่ การบริโภคอาหารที่มีไขมันต่ำ กินผัก ผลไม้ ธัญพืช และโปรตีน (ที่มีไขมันต่ำไขมัน เช่น ถั่วเหลือง เต้าหู้ ปลา ไข่ขาว) ให้มาก ๆ และการดื่มน้ำมาก ๆ

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีไข้ หรือปวดท้องกำเริบขึ้นใหม่
    คลื่นไส้ อาเจียน หรือกินอาหารไม่ได้ 
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินที่บ้าน ถ้ากินยาให้แล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา (เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ)
    มีความวิตกกังวล

การป้องกัน

1. จำกัดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยการงดดื่มสุรา หรือดื่มปริมาณเล็กน้อยเป็นครั้งคราว

2. งดสูบบุหรี่

3. ควบคุมน้ำหนักตัว โดยการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร

4. บริโภคอาหารที่มีไขมันต่ำ กินผัก ผลไม้ ธัญพืช เต้าหู้ ปลาให้มาก ๆ 

5. ถ้าเป็นนิ่วน้ำดี ควรผ่าตัดออก

ข้อแนะนำ

1. ผู้ป่วยเมื่อหายดีแล้ว ห้ามดื่มแอลกอฮอล์อีกต่อไป เพราะอาจทำให้กำเริบได้อีก และควรบริโภคผัก ผลไม้ อาหารที่มีไขมันต่ำ

2. ผู้ป่วยที่กลายเป็นตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง บางรายอาจทำให้กลายเป็นเบาหวานได้ เนื่องจากตับอ่อนไม่สามารถสร้างอินซูลิน ดังนั้นผู้ป่วยโรคนี้ ควรติดต่อรักษากับแพทย์ตามนัดอย่าได้ขาด หากกลายเป็นเรื้อรัง หรือมีเบาหวานแทรกซ้อนจะได้รักษาเสียแต่เนิ่น ๆ

3
motor show 2025: มิตซูบิชินำ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี, เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี และเทคโนโลยี

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและส่งเสริมความยั่งยืนด้านยานยนต์ ณ งานแสดงพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืน (Sustainable Energy Technology Asia 2024: SETA 2024) มุ่งนำเสนอนวัตกรรมและโซลูชันที่สำคัญต่อการสร้างสรรค์พลังงานอัจฉริยะอันนำไปสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคอนาคต
 
มร. โนโบรุ สึจิ (ที่ 4 จากซ้าย) ประธานคณะกรรมการ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ มร. ชิน คุโบะ (ที่ 3 จากซ้าย) กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์องค์กร ถ่ายภาพร่วมกับ ดร. ณอคุณ สิทธิพงศ์ (ที่ 5 จากซ้าย) ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, ฯพณฯ โอตากะ มาซาโตะ (กลาง) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งญี่ปุ่น ประจำราชอาณาจักรไทย, ศ.ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล (ที่ 5 จากขวา) ประธานการจัดงาน SETA 2024, มร. ซุรุดะ มาซาโนริ (ที่ 4 จากขวา) Deputy Commissioner for International Affairs, Agency for Natural Resources and Energy (ANRE) กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น (METI), ดร. ชนะ ภูมี (ที่ 3 จากขวา) ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การบริหารความยั่งยืน เอสซีจี. ศ.ทัตสึยะ เทราซาวา (ที่ 2 จากขวา) ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สถาบันเศรษฐกิจพลังงานแห่งประเทศญี่ปุ่น (IEEJ) และ ดร.นาโอมิ ฮิโรเสะ (ขวาสุด) รองประธานองค์การพลังงานโลก (WEC)

ด้วยแนวคิดในการสร้างสรรค์สังคมคาร์บอนต่ำ และสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศอาเซียน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จึงได้ผนวกเทคโนโลยีด้านพลังงานเข้ากับเทคโนโลยีการขับเคลื่อน สะท้อนออกมาเป็น ที่สุดแห่งดีเอ็นเอของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (Mitsubishi Motors-ness) เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างอย่างเหนือระดับ ทั้งในด้านความสะดวกสบาย สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม เทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านยนตรกรรมรุ่นล่าสุด มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี รถยนต์ครอบครัวอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งขนาดเล็ก พร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด รุ่นแรกในไทย ที่มอบประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับ เต็มเปี่ยมด้วยพลังและมั่นใจในทุกเส้นทาง ด้วย Mitsubishi e:MOTION ที่ผสานระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด ซึ่งพัฒนามาจากระบบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) อันทรงพลังและประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม ทั้งยังมีโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ ให้ความปลอดภัย ลุยได้ในทุกสภาพถนน และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เพื่อการขับขี่ที่มั่นใจสูงสุดขณะเข้าโค้ง
 
ในงานนี้ มร. คาซูอะคิ อิวาโมโตะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ยังได้แสดงปาฐกถาในหัวข้อ แนวคิดริเริ่มของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนด้วยการใช้รถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (Mitsubishi Motors’ Initiative Toward Carbon Neutrality Utilizing BEV and PHEV) ณ เวที Mobility Forum ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานยานยนต์อนาคตของเอเชีย (Sustainable Mobility Asia: SMA 2024)
 

นอกจากนี้ ภายในงาน SETA 2024 และ Sustain Asia Week 2024 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังได้รับ รางวัลยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยอดเยี่ยม (Best Green Mobility Award) โดยมี มร. ชิน คุโบะ (ขวา) กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์องค์กร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย รับมอบรางวัลจาก ดร. สราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน

4
สินค้า บริการอื่น ๆ / โรคมะเร็งปอด (Lung cancer)
« เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2024, 18:16:19 pm »
โรคมะเร็งปอด (Lung cancer)

มะเร็งปอด พบมากเป็นอันดับที่ 2 ของมะเร็งในผู้ชาย และอันดับที่ 4 ของมะเร็งในผู้หญิง พบมากในช่วงอายุ 50-75 ปี มะเร็งปอดมีอยู่หลายชนิด ได้แก่ มะเร็งปอดชนิดเซลล์เยื่อบุ (squamous cell carcinoma) ซึ่งเป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดและเกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ มะเร็งปอดชนิดเซลล์ต่อมเมือก (adenocarcinoma) ซึ่งพบในผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ และชนิด small cell carcinoma ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ พบได้น้อยกว่าชนิดอื่น แต่มีความร้ายแรงสามารถแพร่กระจายเร็ว

สาเหตุ

ร้อยละ 80-90 เกิดจากการสูบบุหรี่ ยิ่งสูบมากและนานก็ยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้มากขึ้น ร้อยละ 5 เกิดจากการรับควันบุหรี่จากผู้อื่น

อาจเกิดจากการสัมผัสสารใยหิน (แอสเบสตอส) จากการทำงาน เช่น การก่อสร้างอาคาร การทำงานที่เกี่ยวกับผ้าเบรก คลัตช์ ฉนวนกันความร้อน อุตสาหกรรมสิ่งทอ เหมืองแร่ เป็นต้น ซึ่งใช้เวลาสัมผัสนาน 15-35 ปีกว่าจะเป็นมะเร็งปอด ถ้าสูบบุหรี่ด้วยก็ยิ่งเสี่ยงมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากการสัมผัสเรดอน (radon ซึ่งเป็นก๊าซกัมมันตรังสีที่เกิดจากการสลายตัวของแร่ยูเรเนียมในหินและดิน กระจายอยู่ในอากาศและน้ำใต้ดิน อาจพบตามเหมืองใต้ดิน อาคารที่ใช้วัสดุก่อสร้างที่ปนเปื้อนก๊าซนี้) มลพิษทางอากาศ (เช่น ควันพิษจากรถยนต์) โรงงานถลุงเหล็กนิกเกิล โครเมียม แคดเมียม โรงงานน้ำมัน ดินน้ำมัน เขม่าจากโรงงาน การดื่มน้ำที่มีสารหนูเจือปน การกินผักและผลไม้น้อย

บางครั้งพบมะเร็งปอดในผู้ป่วยที่มีแผลเป็นในปอดจากโรคปอด เช่น วัณโรคปอด ถุงลมปอดโป่งพอง ภาวะเยื่อพังผืด (fibrosis) ในปอด เป็นต้น

บางรายอาจเป็นมะเร็งปอดโดยไม่มีประวัติการสูบบุหรี่หรือการสัมผัสสารก่อมะเร็งมาก่อนก็ได้

ผู้ที่มีพ่อแม่พี่น้องเป็นมะเร็งปอดมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้มากกว่าปกติ

อาการ

ระยะแรกเริ่มจะไม่มีอาการ ต่อมาจะมีอาการไอเรื้อรัง อาจไอมีเลือดปนเสมหะ หรือไอออกเป็นเลือดสดจำนวนมาก (หากมะเร็งลามถูกหลอดเลือด) หายใจมีเสียงดังวี้ด (หากหลอดลมถูกอุดกั้นจากก้อนมะเร็ง) หรือเจ็บหน้าอกเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุชัดเจน (หากลามไปที่เยื่อหุ้มปอด หรือกระดูกซี่โครง) อาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรคหัวใจขาดเลือด

ต่อมาผู้ป่วยมักมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด หายใจหอบเหนื่อย (จากภาวะมีน้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด) และอาจมีปอดอักเสบแทรกซ้อน

ภาวะแทรกซ้อน

มะเร็งปอดที่เป็นรุนแรงอาจทำให้มีอาการเจ็บปวดมาก หายใจหอบเหนื่อย ไอออกเป็นเลือดรุนแรง

หากมะเร็งลามไปยังอวัยวะข้างเคียง ก็อาจมีอาการเสียงแหบ กลืนลำบาก ปวดแขน แขนชาและอ่อนแรง หนังตาตกและรูม่านตาหดเล็กข้างหนึ่ง มีอาการบวมที่ใบหน้า คอ และหน้าอกส่วนบน หัวใจเต้นผิดจังหวะ

ในระยะท้าย มะเร็งมักจะลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองที่คอหรือแอ่งไหปลาร้า และอวัยวะต่าง ๆ เช่น สมอง (มีอาการปวดศีรษะ สับสน ชัก) ตับ (ตับโต ตาเหลืองตัวเหลือง ท้องมาน) ไขสันหลัง (ขาชาและอ่อนแรง) กระดูก (ปวดกระดูก) เป็นต้น

บางครั้งผู้ป่วยอาจมาปรึกษาแพทย์ด้วยอาการที่มะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะเหล่านี้มากกว่าอาการของมะเร็งปอดโดยตรง (ไอเรื้อรัง ไอเป็นเลือด)

การวินิจฉัย

แพทย์จะทำการวินิจฉัยโดยการเอกซเรย์ปอด การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ การตรวจหาเซลล์มะเร็งในเสมหะ การใช้กล้องส่องตรวจหลอดลม (bronchoscopy) การใช้เข็มเจาะเนื้อปอดนำไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ (needle biopsy)

หากพบว่าเป็นมะเร็งก็จะทำการตรวจเพิ่มเติมด้วยวิธีต่าง ๆ (เช่น เอกซเรย์, อัลตราซาวนด์, เอกซเรย์คอมพิวเตอร์, การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า-MRI, การตรวจเพทสแกน- PET scan เป็นต้น) เพื่อประเมินว่าเป็นมะเร็งระยะใด

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การรักษาด้วยการผ่าตัด รังสีบำบัด เคมีบำบัด อิมมูนบำบัด และ/หรือการใช้ยาแบบจำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง (targeted therapy drugs) ทั้งนี้ขึ้นกับชนิดและระยะของมะเร็งที่พบ

เนื่องจากมะเร็งปอดมักจะลุกลามเร็วและวินิจฉัยได้ในระยะที่มะเร็งแพร่กระจายออกนอกปอดแล้ว มีอัตราการรอดชีวิตเกิน 5 ปีต่ำกว่าร้อยละ 10 (โดยเฉพาะอย่างยิ่งชนิดที่เรียกว่า small cell carcinoma ซึ่งพบได้ประมาณร้อยละ 25 ของมะเร็งปอดทั้งหมด มีอัตราการรอดชีวิตเกิน 5 ปีประมาณร้อยละ 2) การรักษาจึงเป็นเพียงการประทังอาการซึ่งมักจะมีชีวิตอยู่ได้เพียงระยะหนึ่ง

นอกจากในรายที่ตรวจพบในระยะแรก ๆ หรือเป็นชนิดที่ลุกลามช้าหรือตอบสนองต่อการรักษา ก็อาจอยู่ได้นานหลายปี (มีอัตราการรอดชีวิตเกิน 5 ปีประมาณร้อยละ 50-90)

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น ไอหรือเจ็บหน้าอกเรื้อรังเกิน 2 สัปดาห์ ไอเป็นเลือด เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เป็นต้น ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็งปอด ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    หลีกเลี่ยงการซื้อยามากินเอง
    หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช โปรตีนที่มีไขมันน้อย (เช่น ปลา ไข่ขาว เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง)
    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหาทางผ่อนคลายความเครียด
    ออกกำลังกายและทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งงานอดิเรกที่ชอบ และงานจิตอาสา เท่าที่ร่างกายจะอำนวย
    ทำสมาธิ เจริญสติ หรือสวดมนต์ภาวนาตามหลักศาสนาที่นับถือ
    ถ้ามีโอกาสควรหาทางเข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน หรือกลุ่มมิตรภาพบำบัด
    ผู้ป่วยและญาติควรหาทางเสริมสร้างกำลังใจให้ผู้ป่วย ยอมรับความจริง และใช้ชีวิตในปัจจุบันให้ดีและมีคุณค่าที่สุด
    ถ้าหากมีเรื่องวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคและวิธีบำบัดรักษา รวมทั้งการแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร ยาหม้อ ยาลูกกลอน การนวด ประคบ การฝังเข็ม การล้างพิษ หรือวิธีอื่น ๆ) ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ และทีมสุขภาพที่ดูแลประจำและรู้จักมักคุ้นกันดี

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการไม่สบายหรืออาการผิดปกติ เช่น มีไข้ อ่อนเพลียมาก หอบเหนื่อย หายใจลำบาก ชัก แขนขาชาหรืออ่อนแรง ซีด มีเลือดออก ปวดท้อง ท้องเดิน อาเจียน เบื่ออาหารมาก กินไม่ได้ ดื่มน้ำไม่ได้ เป็นต้น
    ขาดยาหรือยาหาย
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผลเต็มที่ แต่อาจลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดด้วยการปฏิบัติ ดังนี้

    ไม่สูบบุหรี่
    เลิกบุหรี่สำหรับผู้ที่เคยสูบ หากสามารถเลิกได้ก็จะลดความเสี่ยงลงได้มาก แม้จะสูบมานานก็ตาม
    หลีกเลี่ยงการสัมผัสควันบุหรี่ สารใยหิน มลพิษทางอากาศ และรังสีเรดอน (radon)
    หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ
    กินผักและผลไม้ให้มาก ๆ

ข้อแนะนำ

1. มะเร็งปอดแม้จะพบบ่อยในผู้ที่สูบบุหรี่ แต่ผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ก็มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้ ดังนั้นทุกคนไม่ว่าจะมีประวัติสูบบุหรี่หรือไม่ก็ตาม หากมีอาการที่น่าสงสัย เช่น ไอหรือเจ็บหน้าอกเรื้อรังเกิน 2 สัปดาห์ ไอเป็นเลือด เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เป็นต้น ควรปรึกษาแพทย์

2. ปัจจุบันยังไม่มีวิธีตรวจหามะเร็งปอดระยะแรกที่ได้ผลดี ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่รอให้มีอาการแสดงชัดแล้วค่อยไปพบแพทย์ให้ตรวจรักษา ซึ่งมักจะเป็นระยะที่มะเร็งมีการลุกลามแล้ว และรักษาได้ผลไม่สู้ดี ดังนั้นควรหาทางป้องกันด้วยการไม่สูบบุหรี่หรือเลิกบุหรี่ และหมั่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรง

3. ปัจจุบันมีวิธีบำบัดรักษาโรคมะเร็งใหม่ ๆ ที่อาจช่วยให้โรคหายขาดหรือทุเลา หรือช่วยให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ผู้ป่วยจึงควรติดต่อรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคมะเร็ง มีความมานะอดทนต่อผลข้างเคียงของการรักษาที่อาจมีได้ อย่าเปลี่ยนแพทย์ เปลี่ยนโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น หากสนใจจะแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร หรือวิธีอื่น ๆ) ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ และทีมสุขภาพที่ดูแลประจำและรู้จักมักคุ้นกันดี

5
money expo 2024: ภาษีครึ่งปี คืออะไร มนุษย์เงินเดือนต้องจ่ายมั๊ย หรือใครต้องจ่ายบ้าง

สำหรับมนุษย์เงินเดือนก็เพิ่งจะสิ้นสุดการยื่นภาษีประจำปีกันไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แล้วพอครึ่งปีจะต้องมียื่นภาษีอะไรกันอีก มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ต้องจ่ายกันอีกรอบมั๊ย แล้วรายได้แบบไหนที่เข้าข่ายต้องยื่นภาษีครึ่งปีกันนะ ไปหาคำตอบพร้อมกันเลยค่ะ

ภาษีครึ่งปี (ภ.ง.ด. 94) คืออะไร
 
ภ.ง.ด. 94 เป็นแบบชำระภาษีบุคคลธรรมดารอบครึ่งปี ที่ตามกฎหมายจะกำหนดเอาไว้ว่าบุคคลใดที่มีเงินได้ตามมาตรา 40(5) - 40(8) ที่ได้รับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายนไม่ว่าจะมีเงินได้ประเภทอื่นรวมอยู่ด้วยหรือไม่ก็ตาม มีหน้าที่ต้องยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปีโดยใช้แบบ ภ.ง.ด. 94 ในการนำส่ง
 
ประเภทเงินได้ที่ต้องจ่ายภาษีครึ่งปี (ภ.ง.ด.94)
 
เงินได้พึงประเมินที่ต้องจ่ายภาษีครึ่งปี คือเงินได้ในมาตรา 40(5) - 40 (8) โดยต้องมีรายได้ในช่วงครึ่งแรกของปีปฏิทิน รวมกันแล้วมากกว่า 60,000 บาท ซึ่งเงินได้ในแต่ละประเภทมีความแตกต่างกัน ดังนี้
 
เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (5) คือ เงิน หรือประโยชน์อย่างอื่นที่ได้จากการให้เช่าทรัพย์สินต่างๆ เช่น การให้เช่าบ้าน การให้เช่ารถยนต์ การให้เช่าที่ดินเป็นต้น
เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (6) คือ เงินได้จากการประกอบวิชาชีพอิสระ ส่วนมากจะเป็นวิชาชีพที่ต้องได้ใบประกอบวิชาชีพเฉพาะทาง เช่น  กฎหมาย การประกอบโรคศิลป วิศวกรรม สถาปัตยกรรม การบัญชี ประณีตศิลปกรรม หรือวิชาชีพอื่นซึ่งจะได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดชนิดไว้
เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (7) คือ เงินได้จากการรับเหมาที่ผู้รับเหมาต้องลงทุนด้วยการจัดหาสัมภาระ ที่มีการเหมาทั้งค่าแรงและค่าของ เช่น การรับเหมาก่อสร้างทั้งหมด

เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8) คือ เงินได้อื่นนอกจากที่ระบุไว้ในมาตรา 40(1) - 40(7) เช่น รายได้จากการเป็นนักแสดง ดารา ธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนส่ง รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ รายได้จากการทำธุรกิจในนามบุคคลธรรมดา เป็นต้น


ยื่นภาษีครึ่งปีแล้ว ต้องยื่นภาษีปลายปีอีกหรือไม่

การยื่นภาษีครึ่งปี เป็นการยื่นภาษีสำหรับรายได้ที่มาจาก 4 ประเภทข้างต้น หากเรายังมีรายได้อื่นๆ เช่น เงินเดือน ค่าจ้างทั่วไป ดอกเบี้ย เงินปันผล ก็ต้องรวมยื่นภาษีปลายปีอีกครั้งนะคะ โดยเราจะต้องนำรายได้ ค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนภาษีของทั้งปีมายื่นในแบบ ภ.ง.ด.90 และในส่วนของภาษีที่จ่ายไปแล้วในช่วงครึ่งปี ก็ให้นำมาแสดงอีกครั้งเพื่อที่จะได้นำมาเป็นเครดิตออกจากภาษีสิ้นปีได้ค่ะ
 
กำหนดการยื่นภาษีครึ่งปี ภ.ง.ด.94

ผู้มีหน้าที่ยื่นภาษีครึ่งปี (ภ.ง.ด. 94) สามารถยื่นภาษีได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. - 2 ต.ค. 66 โดยสามารถยื่นแบบฯ ออนไลน์ได้ หรือที่สำนักงานสรรพากรทั่วประเทศ และหากไม่ยื่นภาษีตามระยะะเวลาที่กำหนด จะมีโทษปรับ 2,000 บาท และมีดอกเบี้ยในอัตรา 1.5%ต่อเดือน (เศษของเดือนคิดเป็น 1 เดือน) โดยนับตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. 66 เป็นต้นไป และสำหรับคนที่มียอดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปีที่มียอดชำระตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป สามารถเลือกผ่อนชำระได้ 3 งวด โดยไม่เสียดอกเบี้ย
สำหรับภาษีครึ่งปี กฎหมายกำหนดไว้ให้เฉพาะคนที่มีรายได้เกินเกณฑ์ที่กำหนด โดยต้องเป็นเงินได้ประเภท 5, 6, 7, 8 เท่านั้น หากใครที่เข้าข่ายนี้ ก็สามารถดำเนินการยื่นภาษีได้ตามระยะเวลาที่กรมสรรพากรกำหนดได้เลยนะคะ หรือหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ กรมสรรพากร โทร. 1161 ได้เลยนะคะ

6
ซ่อมบำรุงอาคาร: น้ำแอร์รั่วเกิดจากอะไร ต้องแก้ไขอย่างไร

การใช้งานเครื่องปรับอากาศ เชื่อว่าหลายคนคงใช้เป็นกันอยู่แล้ว เพราะแอร์ถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลายบ้านต้องมีอย่างแน่นอน เนื่องจากเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ซึ่งเครื่องปรับอากาศก็มีความจำเป็นที่จะช่วยในการคลายร้อนได้ แต่การใช้งานเครื่องปรับอากาศนั้น ถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปลืองไฟมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ยิ่งบ้านไหนใช้งานทุกวัน ก็ต้องยอมเสียเงินจ่ายค่าไฟหลักพันเลยทีเดียว แต่การใช้งานเครื่องปรับอากาศนั้น ถ้าเราใช้งานอย่างถูกต้อง ก็สามารถประหยัดค่าไฟไปได้เยอะ แถมยังช่วยรักษาอายุการใช้งานให้อยู่คู่กับบ้านได้นานอีกด้วย แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า เครื่องปรับอากาศที่เราใช้งานอยู่ทุกวันๆนั้น เราใช้งานถูกต้องแล้ว อย่างที่บอกว่า เครื่องปรับอากาศ ถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่บ้านหรือครัวเรือนแทบจะทุกหลังคาเรือนต้องมี


เพราะด้วยอากาศที่ร้อนมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนอบอ้าวเป็นพิเศษ  ทำให้เรารู้สึกหายเหนื่อยขึ้นมาได้เลยทีเดียว การใช้งานเครื่องปรับอากาศนั้น ถึงแม้ว่าจะไม่มีความยุ่งยากซับซ้อนเท่าไหร่ แต่เราก็ต้องใช้งานให้ถูกวิธีเพื่อที่จะรักษาเครื่องปรับอากาศของเราให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานและไม่เกิดเสียก่อนเวลาอันควร ในขณะที่เราใช้งานเครื่องปรับอากาศ อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับน้ำแอร์รั่ว ซึ่งเชื่อว่า หลายคนคงเคยประสบปัญหานี้ แต่อาจจะไม่ทราบสาเหตุว่า ปัญหาน้ำแอร์รั่วออกมานั้น เกิดจากอะไรบ้างและต้องแก้ไขอย่างไร ซึ่งวันนี้ทางเราจะมาช่วยกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวกัน เพื่อที่คนที่มีปัญหาดังกล่าวได้ใช้งานแอร์ได้อย่างไม่สะดุด

หากพูดถึงเรื่องของปัญหาน้ำแอร์รั่วนั้น จะเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุหลักๆคือ การที่มีฝุ่น เข้าไปจับตัวกันหรืออุดตันอยู่ภายในแอร์มากจนเกินไป ก็จะทำให้ในขณะที่เราเปิดแอร์นั้น น้ำก็จะจับตัวกันเป็นก้อนและกลายเป็นน้ำแข็งจากนั้นตัวเครื่องของแอร์ก็จะไม่สามารถระบายความเย็นออกมาได้ทันและทำให้เกิดเป็นหยดน้ำไหลออกมาจากตัวแอร์ของเรา

หากเกิดเช่นนี้ขึ้นเราควรที่จะเรียกให้ช่างผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจสอบและแก้ไขปัญหานี้ เพื่อที่จะได้ทำความสะอาดอย่างถูกต้องและจะได้ตรวจสอบ น้ำยาแอร์ด้วย เพราะถ้าหากน้ำยาแอร์มีน้อยเกินไป ก็อาจจะทำให้ระบบแอร์นั้น ปรับอากาศได้ไม่เพียงพอและอาจจะทำให้เครื่องพังได้ในเวลาต่อมา ซึ่งก็อาจจะเป็นสาเหตุของการเกิดน้ำแอร์รั่วด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ในการติดตั้งแอร์ที่ไม่ได้ติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ ก็จะส่งผลทำให้การการเดินท่อภายในนั้นไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากในการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ


นอกจากนั้น ท่อที่นำมาใช้อาจจะไม่ได้มาตรฐาน จึงทำให้เกิดหยุดน้ำเกาะบริเวณท่อ และทำให้เกิดน้ำแอร์หยดได้ แต่เมื่อเราพบปัญหาน้ำแอร์รั่ว ไม่ว่าจะจากสาเหตุอะไรก็ตาม เราสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีการล้างแอร์ให้ตรงตามกำหนดการล้างแอร์ เพื่อเป็นการทำความสะอาดแอร์ ซึ่งเราจะได้มีแอร์ใช้งานต่อไปได้นานยิ่งขึ้น ควรให้ผู้เชี่ยวชาญในการล้างแอร์เพราะหากเรามีความเชี่ยวชาญไม่พอก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ในภายหลัง ซึ่งการล้างแอร์จะช่วยทำให้คนในบ้านมีสุขภาพที่ดีขึ้นด้วย

เพราะฉะนั้น เราจะต้องหมั่นตรวจเช็คและตรวจสอบสภาพแอร์อยู่เป็นประจำ ซึ่งเราควรที่จะสังเกตว่าแอร์ของเรานั้นที่ตัวกรองมีฝุ่นเกาะมากเกินไปหรือไม่ หากมีมากเกินไปเราก็สามารถแกะออกมาล้างก่อนได้ด้วยตัวเอง เพื่อแก้ไขปัญหาเบื้องต้นก่อน รวมทั้ง การตรวจดูถาดน้ำทิ้ง ซึ่งเราควรที่จะตรวจเช็คอยู่บ่อยๆ เพื่อดูว่าถาดน้ำทิ้งนั้นเลื่อนหรือเคลื่อนไปจากเดิมหรือไม่ และหากมันไม่ได้อยู่ที่เดิมก็ควรที่จะแก้ไขทำให้มันกลับมาอยู่ในสภาพเดิม เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำแอร์รั่วได้ในเบื้องต้น เมื่อเราพบเจอปัญหา เราควรรีบแก้ไขเพื่อให้การใช้งานเครื่องปรับอากาศใน้านเรา สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และยังเป็นการช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าด้วย


ทั้งนี้ทางเราอยากให้ทุกคนได้เลือกเครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานที่เหมาะสมกับคุณ ทางเรามีบริการดูแลระบบเครื่องปรับอากาศภายในอาคาร ที่มีคนจำนวนมาก เพื่อที่จะได้สามารถใช้งานเครื่องปรับอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเราถือว่า ระบบปรับอากาศและหมุนเวียนอากาศเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะผู้คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักจะใช้ชีวิตในภายในอาคาร นั่นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าเราได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์และสะอาดเข้าไป ก็จะทำให้เรามีสุขภาพที่ดี สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้สดชื่น สบายมากยิ่งขึ้น

7
จัดฟันบางนา: สุขภาพช่องปากของเด็กที่ไม่ควรมองข้าม

สุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม ซึ่งปกติแล้วเด็กจะมีฟันน้ำนมซี่แรก เมื่อเด็กอายุประมาณ 6 เดือน และซี่อื่น ๆก็จะขึ้นตามมา สำหรับเด็กถ้าเป็นโรคภายในช่องปากจะมีผลกระทบกระเทือนต่อระบบโภชนาการของเด็ก เพราะฉะนั้นเด็กจึงควรได้รับการดูแลเอาใจใส่สุขภาพช่องปากและฟันที่เหมาะสม พ่อแม่ผู้ปกครองหลายท่านอาจจะสอนให้เด็กได้ดูแลสุขภาพช่องปากด้วยตัวเอง โดยสอนให้ลูกรู้จักการแปรงฟันที่ถูกต้อง ควรรับประทานอาหารครบทั้ง 5 หมู่

นอกจากจะได้คุณค่าต่อร่างกายแล้วยังช่วยให้ฟันทำหน้าที่บดเคี้ยวอาหารได้เต็มที่ กระตุ้นให้ขากรรไกรและใบหน้าเจริญสมบูรณ์ พยายามให้เด็กดื่มนมสดเป็นประจำเพราะมีประโยชน์ต่อร่างกายและเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟันด้วย และต้องสอนให้รู้จักหลีกเลี่ยงอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลซึ่งจะสร้างกรดแบคทีเรียที่จะทำให้เกิดฟันผุ ที่สำคัญที่สุด พ่อแม่ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานของท่านไปพบท่านแพทย์ เพื่อรับการตรวจอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยทุก ๆ 6 เดือน เพื่อสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีสำหรับวันนี้ทางคลินิกจะมาพูดถึงสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม เพราะถือว่าเป็นการปลูกฝังให้เด็กรู้จักดูแลสุขภาพช่องปากและฟันตั้งแต่เด็ก ๆ เพื่อให้เขาได้มีสุขภาพฟันที่แข็งแรงไม่เกิดปัญหาตามมาในอนาคต

สำหรับการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กนั้น ควรเริ่มดูแลตั้งแต่แรกเกิดและไม่จำเป็นต้องรอให้ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้นก่อน ดังนั้นพ่อแม่ ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานของท่านไปพบกับทันตแพทย์เพื่อทำการตรวจสุขภาพช่องปากและฟันอย่างสม่ำเสมอ พ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องหมั่นช่วยดูแลสุขภาพฟันและสอนวิธีการแปรงฟันที่ถูกต้องควบคู่ไปด้วย สำหรับเด็กในอายุ6 เดือน-1 ขวบ เด็กในวัยนี้พ่อแม่ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานไปพบทันตแพทย์เมื่อมีฟันน้ำนมซี่แรกขึ้นหรืออายุประมาณ 1 ขวบ สำหรับเด็กเล็กถึงเด็กเริ่มเข้าโรงเรียน หลังจากที่เด็กได้รับการตรวจสุขภาพฟันครั้งแรกแล้วผู้ปกครอง ควรพาลูกไปตรวจสุขภาพฟันครั้งทุก ๆ 6 เดือน หากทันตแพทย์พอพิจารณาว่าสุขภาพช่องปากในฟันของเด็กมีปัญหาหรือเกิดฟันผุ ทันตแพทย์ก็จะทำการนัดให้เด็กมาตรวจสุขภาพฟันบ่อยขึ้น

สำหรับการที่จะพบทันตแพทย์ในครั้งแรกนั้นการพาเด็กไปพบทันตแพทย์ทั่วไปหรือทันตแพทย์สำหรับเด็กมีความแตกต่างกันคือ เด็กอาจจะรู้สึกสบายใจ เพลิดเพลินไปกับสีสันและสิ่งแวดล้อมในห้องตรวจสำหรับเด็กมากกว่าของทันตแพทย์ทั่วไป ดังนั้นพ่อแม่ผู้ปกครองควรจะพิจารณาทางเลือกให้เหมาะสมกับลูก ก่อนทำการนัดหมายเพื่อเป็นการปลูกฝังเด็กไม่กลัว หรือกังวล กับการที่จะต้องไปพบกับทันตแพทย์ สำหรับการเตรียมความพร้อมและการปลูกฝังให้เด็กก่อนที่จะพาไปพบกับทันตแพทย์ สามารถช่วยให้เด็กเกิดความคุ้นเคยและไม่กลัว เมื่อต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพฟัน โดยจะมีการกำหนดเวลา โดยควรเลือกช่วงเวลาและวันที่เหมาะสม ควรสร้างทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพช่องปากและฟัน เพื่อให้เด็กรู้ว่าการตรวจสุขภาพฟันนั้นจะช่วยให้เด็กมีสุขภาพฟันที่ดีและแข็งแรงขึ้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรรับฟังเพราะเปิดโอกาสให้เด็กบอกเล่าถึงความรู้สึกต่อการรักษาฟัน เพื่อไม่ให้เด็กเกิดอาการกลัวเมื่อต้องพบกับทันตแพทย์ ส่วนใหญ่ผู้ปกครองหลายคนละเลยหรือมองข้ามเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กเพราะคิดว่าฟันน้ำนมจะหลุดเองและไม่ต้องให้ความสำคัญมากนัก ซึ่งถือว่าเป็นความเข้าใจที่ผิดมากเพราะนอกจาก เป็นการปลูกฝังความคิดที่ผิดแล้ว ยังจะทำให้เด็กไม่กล้าพบกับทันตแพทย์

 เราจะมาพูดถึงว่า ทำไมพ่อแม่ผู้ปกครอง ควรที่จะใส่ใจดูแลรักสาสุขภาพช่องปากและฟันของบุตรหลานของท่าน ต้องบอกก่อนว่าสุขภาพช่องปากและฟันเป็นส่วนหนึ่งของความงามที่สามารถสร้างความประทับใจได้เมื่อแรกเห็นได้ เชื่อว่าเด็ก ๆ จะมีความมั่นใจและภูมิใจในตัวเอง หากได้รับคำชม นอกจากนี้เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ก็จะทำให้รู้สึกมีความมั่นใจสามารถพบปะผู้คนได้อย่างเต็มที่และไม่ทำให้เสียบุคลิกภาพด้วย นอกจากนี้สุขภาพช่องปากและฟันยังมีผลต่อสุขภาพด้านอื่นด้วย เนื่องจากเราต้องใช้ฟันในการบดเคี้ยวอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่จะเข้าไปช่วยบำรุงรักษาและเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกายเราถ้าหากเรามีสุขภาพช่องปากและฟันที่ไม่ดีใช้ฟันบดเคี้ยวอาหารได้ไม่ละเอียดก็อาจจะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหารได้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร่างกาย นอกจากนี้ในเรื่องของการออกเสียงการพูด เพราะว่าเด็กมีจำนวนไม่น้อยที่พูดไม่ชัดเนื่องจากปัญหาของสุขภาพช่องปากฟันถ้าไม่มีฟันหน้า เด็กจะไม่สามารถพูด ออกเสียง ได้ถูกต้อง ซึ่งเป็นปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นกับวัยเด็ก

เพราะฉะนั้นสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีของเด็ก จึงถือว่ามีความสำคัญมากและไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง เพราะถ้าเด็กในวัยนี้ มีการเกิดโรคภายในช่องปากก็จะมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตพัฒนาการของเด็กอีกด้วยอย่างไรก็ตามพ่อแม่ผู้ปกครองควรหมั่นดูแลปลูกฝังให้เขาดูแลสุขภาพช่องปากและฟันให้สะอาดอยู่เสมอ ทั้งนี้หากผู้ปกครองท่านใดสนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการตรวจช่องปากและฟันประจำปี สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำจากทางคลินิกได้ ทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก จึงทำให้มั่นใจได้ว่าบุตรหลานของท่าน จะมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

8
ถวาย ดอกบัวอบแห้ง เข้าโบสถ์ เที่ยววัดท่าไทร เที่ยวพังงา วัดริมทะเล Unseen ภาคใต้

เที่ยวพังงา เที่ยววัดท่าไทร จะเรียกว่า เป็น Unseen ของพังงา ก็ได้นะ เพราะความสวยงามของโบสถ์ไม้สัก ความเรียบง่ายของวัด ความงดงามของลวดลายไม้ในโบสถ์ไม้สัก ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมทะเล ผนวกกับเสียงเกลียวคลื่นกระทบฝั่ง และต้นสนใหญ่ริมทะเลที่ปลิวไสวตามแนวลมทะเล เป็นบรรยากาศที่สวยงาม สงบ และสบายใจ ที่นี่คือ วัดท่าไทร

เที่ยวพังงา เที่ยวัดเทสก์ธรรมนาวา (วัดท่าไทร)
ไร่หนึ่งอรุณ ได้มีโอกาสเดินทางมาที่วัดท่าไทร หรือวัดเทศก์ธรรมนาวา ที่จังหวัดพังงา ได้ถวาย ดอกบัวอบแห้ง เป็นพุทธบูชาแด่องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า คู่หนึ่ง โดยตั้งไว้ที่โบสถ์วัดท่าไทร และได้ถวายสังคทาน และทำบุญเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สืบไป

วัดเทสก์ธรรมนาวา หรือ “วัดท่าไทร” ตั้งอยู่ที่บ้านท่าแตง ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เป็นวัดริมหาดชายทะเลท่าไทร เป็นวัดที่สร้างโบสถ์ไม้สัก ซึ่งเป็นไม้สักสวยงาม อาคารทรงไทย รวมถึงยังมีการแกะสลักอย่างอ่อนช้อย งดงาม ปราณีต แรงบันดาลใจในการตกแต่งโบสถ์นั้นได้มาจากพระอุโบสถของ พระอรัญวาสี ที่จังหวัดหนองคาย

“พระอุโบสถไม้สัก” มีขนาด กว้าง 8.30 เมตร ยาว 23.10 เมตร สูง 13.54 เมตร การตกแต่งภายในโบสถ์ จะมีไม้สักที่มีผนังเป็นฝาปะกน ลวดลายไม้สักงดงาม ประดิษฐานพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา ที่แกะสลักขึ้นมาจากหินหยกขาว เป็นศิลปะที่ได้รับอิทธิพลมาจากอินเดีย ซึ่งมีขนาดหน้าตักจะกว้าง 55 นิ้ว สูง 2 เมตร และบริเวณของช่อฟ้าของโบสถ์เป็นฝีมือช่างแกะสลัก ชาวเชียงใหม่ จึงแฝงได้ด้วยลักษณะความงามแบบวัดทางเหนือผสมผสานอย่างลงตัว

ส่วนบริเวณรอบโบสถ์ไม้สักมีกำแพงแก้วเป็นไม้ ใบเสมาแกะสลักจากหินหยกขาวมีรูปพระพุทธรูปอยู่ตรงกลาง ตรงบันไดทางเข้าโบสถ์ประดับเสาอโศกสีทองอร่าม

โบสถ์ไม้สักวัดท่าไทร ประดับประดาด้วยงานไม้แกะสลัก ฝีมือช่างจากอยุธยาอันประณีต อ่อนช้อย ทั้งตามบริเวณบานประตู หน้าต่าง หน้าบัน เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ บานหน้าต่าง โดดเด่นด้วยงานแกะสลัก ปรมัตถบารมี 10 ซึ่งเป็นการบำเพ็ญบารมีชั้นสูง การเสียสละชีวิตของตนเองเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น

บริเวณรอบๆวัด สะอาดตา อีกทั้งยังสามารถเห็นวิวฝั่งทะเลได้ ใครจะเชื่อว่าวัดแห่งนี้ เดิมที่ดินที่สร้างวัดนี้เป็น “ป่าช้า” มาก่อน และมีเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับความเป็นมาของวัดท่าไทร

ประวัติวัดเทสก์ธรรมนาวา หรือ “วัดท่าไทร”
ในอดีต พื้นที่ของวัดแห่งนี้ เคยเป็นป่ามาก่อน เรียกว่า “ป่าท่าไทร” และเป็นสุสานที่ฝังศพ หรือ “ป่าช้า” มาก่อน เนื่องจากว่า ในอดีตป่าท่าไทรแห่งนี้ ชาวบ้านในพื้นที่ และละแวกใกล้เคียง เมื่อมีคนตายก็จะนำศพล่องเรือมาเผา หรือฝังที่ป่าท่าไทรแห่งนี้ ชาวบ้านเรียกขานว่า “อ่าวเหรว” หรือหมายถึง แอ่งน้ำในป่าช้า

โดยแนวพื้นที่หาดชายทะเลท่าไทร เป็นแนวป่าสนชายฝั่งทะเล มีชายหาดหน้าหาดยาวไกล เป็นหาดที่สงบ สะอาด ทำให้มีเต่าทะเล ขึ้นมาวางไข่ที่หาดแห่งนี้เป็นประจำ ประมาณในช่วงเดือนพฤศจิกายน – เดือนเมษายน

สมัยก่อนนั้น จะมีการทำเหมืองแร่ ในจังหวัดพังงา และมีเรื่องเล่าว่า พื้นที่โดยรอบของป่าท่าไทร สามารถทำเหมืองแร่ได้หมด ยกเว้นที่ป่าท่าไทร ที่ไม่มีใครสามารถจะเข้ามาทำเหมืองแร่ได้ เป็นเรื่องที่ไม่อาจพิสูจน์ได้ แต่ชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่ต่างเชื่อว่าเป็นพื้นที่อาถรรพ์ หากใครย่ามกายเข้ามา ก็จะป่วย เสียสติ หรือมีอันเป็นไป จึงเป็นที่พูดถึงกันอย่างแพร่หลายถึงเหตุอาถรรพ์นั้น

จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2533 ได้มีพระชัยพล อาสโภ และพระอานนท์ พระผู้ติดตาม ท่านทั้งสอง ได้เดินทางเข้ามาบำเพ็ญศิลภาวนา และเห็นว่า พื้นที่ป่าท่าไทรมีความเงียบสงบ เหมาะต่อการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างมาก ด้วยแรงศรัทธา ของคนในชุมชนและในพื้นที่ใกล้เคียง เมื่อรู้ว่ามีพระมาปฏิบัติธรรม จึงได้ร่วมใจกันสร้างเป็นที่พักสงฆ์ สร้างศาลามุงจาก สร้างกุฏิให้พระจำพรรษา

ในปี พ.ศ. 2534 พระอาจารย์เสนอ วัดถ้ำทะเลหอย จังหวัดกระบี่ ได้ยื่นเรื่องขอพื้นที่จากอธิบดีกรมป่าไม้ในสมัยนั้น ก็คือนายผ่อง เล่งอี้ ซึ่งท่านก็ได้อนุมัติให้ใช้พื้นที่ตามโครงการ ศูนย์สาธิตพระพุทธศาสนากับป่าไม้ ภายใต้การกำกับดูแลของวัดประชาธิการาม

ในปี พ.ศ. 2537 แหล่งปฏิบัติธรรมแห่งนี้ ได้ก่อตั้งเป็นสำนักสงฆ์ โดยได้รับการอนุญาตจากทางราชการ ในเรื่องการขอใช้พื้นที่เพื่อเป็นศาสนสถานในการประกอบศาสนกิจ และบำเพ็ญกุศลของชาวบ้านในหมู่บ้านท่าแตง และละแวกใกล้เคียง และเป็นสถานที่ในการปลูกฝัง ให้คนในชุมชน ยึดมั่นในความดีงาม และปฏิบัติธรรม ให้เข้าถึงธรรมะในจิตใจเรื่อยมา

แต่ทว่า หลังจากนั้นสำนักสงฆ์ท่าไทร ได้ถูกปล่อยทิ้งร้าง ไม่มีพระภิกษุมาพำนักบวชอยู่เลย และสำนักสงฆ์แห่งนี้ ก็ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2546 ได้นิมนต์ “พระอาจารย์วินัย รัตนวณฺโณ” มาพำนักที่วัดท่าไทรนี้ ซึ่งพระอาจารย์วินัย ท่านเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้อยู่ปฏิบัติอาจารริยวัตรกับหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ที่วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย มาเป็นเวลานาน 16 ปี จวบตนหลวงปู่เทสก์ท่านละสังขาร

พระอาจารย์วินัย เมื่อมาพำนักปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์ท่าไทร ทำให้เกิดแรงศรัทธาจากพุทธศาสนิกชน ได้มาก่อสร้างเสนาสนะ พร้อมอบรมปฏิบัติธรรมในที่ดินสาธารณะประโยชน์หรือป่าช้าเดิม และพระอาจารย์วินัยได้ดำเนินการก่อตั้งวัดขึ้น ได้รับอนุญาตให้สร้างวัดจากรมการศาสนาเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

วัดท่าไทร ได้รับอนุญาตให้ตั้งวัด ในพระพุทธศาสนาเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ได้รับประทานนามวัดจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ตามประกาศในหนังสือที่พิเศษ/๒๕๕๑ ลงวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๑ นามว่า “วัดเทสก์ธรรมนาวา” พร้อมกันนี้ พระอาจารย์วินัยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกแห่งวัดเทสก์ธรรมนาวา

พระอาจารย์วินัย ได้ดำเนินการขอรับ พระราชทานวิสุงคามสีมา หรือ เขตที่พระราชทานแก่สงฆ์ เพื่อใช้เป็นที่สร้างอุโบสถ โดยได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2557

9
คอนโดติดรถไฟฟ้า  บรอมป์ตัน เพ็ท เฟรนด์ลี่ สุขุมวิท - เทพารักษ์ (Brompton Pet Friendly Sukhumvit - Theparak)
เริ่มต้น 1 ลบ.

บรอมป์ตัน เพ็ท เฟรนด์ลี่ สุขุมวิท - เทพารักษ์ (Brompton Pet Friendly Sukhumvit - Theparak)
เตรียมพบกับคอนโดใหม่ เลี้ยงสัตว์ได้ ใกล้ BTS สำโรง Interchange ที่เดียวในเทพารักษ์ เร็วๆ นี้

 รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ                บรอมป์ตัน เพ็ท เฟรนด์ลี่ สุขุมวิท - เทพารักษ์ (Brompton Pet Friendly Sukhumvit - Theparak)
 เจ้าของโครงการ           ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้
 ราคา                       เริ่มต้น 1 ลบ.

 ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.         โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ลักษณะทำเล                คอนโดใกล้ขนส่งสาธารณะ
 ความสูงคอนโด             โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ลักษณะกรรมสิทธิ์          โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ประเภทห้องที่มี             โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ขนาดห้องที่มี               โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 เนื้อที่ทั้งหมด               โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนตึก                   โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนชั้น                   โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนห้อง                 โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ที่จอดรถทั้งหมด            โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ค่าบำรุงส่วนกลาง          โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 สาธารณูปโภค              โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

 สถานที่ใกล้เคียง
 โซน
 ที่ตั้ง

 ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า:                   โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 สถานที่สำคัญใกล้เคียง   โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ปีที่สร้างเสร็จ             โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

10
สินค้า บริการอื่น ๆ / วีโว่ vivo V30 Pro 5G (12GB/512GB)
« เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2024, 18:45:11 pm »
วีโว่ vivo V30 Pro 5G (12GB/512GB)
19,999 บาท

วีโว่ vivo V30 Pro 5G (12GB/512GB)
ดีไซน์เรียบง่าย แต่สง่างาม
กล้องเลนส์ ZEISS ระดับโปรทั้ง 3
ทุกเลนส์กล้องรับรอง มาตรฐานเลนส์ ZEISS
ออร่าพอร์ตเทรต อัปเกรดใหม่ ใช้ถ่ายภาพพอร์ตเทรต ได้อย่างงดงาม
วิดีโอพอร์ตเทรต ถ่ายสวยด้วยแสงออร่า
ดดเด่นด้วย เสน่ห์ยามค่ำคืน
ครีเอเตอร์สาย Vlogการทำ Vlog ระดับโปร ครบจบในเครื่องนี้

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น            วีโว่ vivo V30 Pro 5G (12GB/512GB)
   ราคากลาง         19,999 บาท
   จำนวนซิม         2 ซิม (Nano Sim)
   แบบดีไซน์         จอสัมผัส
   สี                   White(Shell White), Black(Night Sky Black)
   ความถี่-เครือข่าย
2G(GSM 850/900/1800/1900 MHz)
3G(WCDMA B1/B2/B4/B5/B8)
4G(FDD-LTE B1/B2/B3/B4/B5/B7/B8/B12/B17/B18/B19/B20/B26/B28)
5G(n1/n3/n5/n7/n8/n20/n28/n38/n40/n41/n77/n78)

   ขนาด-น้ำหนัก                   ยาว 164.36 x กว้าง 75.1 x หนา 7.45 มม., น้ำหนัก 188 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)   512 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด     -
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ       ความจุแบตเตอรี่ 5,000 mAh

จอแสดงผล
   ชนิดจอ               จอสัมผัส (AMOLED)
   ความละเอียด       6.78 นิ้ว, 452 ppi, 1,260 x 2,800 px

   รายละเอียดอื่น
อัตรารีเฟรช 60 Hz, 120 Hz

ความอิ่มตัวของสี 105% NTSC

วัสดุเปล่งแสง A22 (Q9)

การสัมผัสหน้าจอ Capacitive multi-touch

ความสว่างสูงสุดเฉพาะส่วน 2800 nits

ขอบเขตสี 100% DCI-P3

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                กล้องหลัง (50 Mpx), กล้องหน้า (50 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                           -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)            MediaTek Dimensity 8200
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)    Mali-G610 MC6
   หน่วยความจำ (RAM)               12.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก              USB(2.0), Bluetooth(5.3), NFC, Wi-Fi(2.4 GHz, 5.1 GHz, 5.5 GHz, 5.8 GHz)
   ระบบรับส่งข้อความ                  -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต            3G, WiFi, 4G, 5G

11
สุขภาพดี: สารสกัดจากผลเบอร์รี่ นวัตกรรมเพื่อสุขภาพที่น่าสนใจส่งผลดีต่อสุขภาพ

ผลเบอร์รี่ นอกจากจะมีรสชาติอร่อยและสีสันสดใสแล้วยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยเฉพาะสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความแก่และป้องกันโรคต่างๆ สารสกัดจากผลเบอร์รี่จึงกลายเป็นวัตถุดิบยอดนิยมในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง เนื่องจากสามารถนำคุณประโยชน์ของผลเบอร์รี่มาใช้ได้อย่างเข้มข้น สารสกัดจากผลเบอร์รี่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก

เนื่องจากมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสกัด ผลเบอร์รี่ไม่เพียงแต่มีรสชาติดีเท่านั้น แต่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็น สารต้านอนุมูลอิสระและสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่ส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม บทความนี้จะกล่าวถึงสารสกัดจากผลเบอร์รี่ประเภทต่างๆ และประโยชน์ต่อสุขภาพอันสร้างสรรค์ของสารสกัดจากผลเบอร์รี่เหล่านี้

พลังแห่งเบอร์รี่
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น บลูเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ และแบล็กเบอร์รี่ ขึ้นชื่อเรื่องสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง ผลไม้ขนาดเล็กเหล่านี้มีสารไฟโตเคมีคัลที่มีประสิทธิภาพ เช่น ฟลาโวนอยด์ โพลีฟีนอล และแอนโธไซยานิน ซึ่งช่วยต่อสู้กับความเครียดออกซิเดชันและลดการอักเสบในร่างกาย การวิจัยล่าสุดเผยให้เห็นว่าสารประกอบเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการป้องกันโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และมะเร็งบางชนิด

ชนิดของสารสกัดเบอร์รี่และคุณประโยชน์

สารสกัดบลูเบอร์รี่

สารสกัดบลูเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารแอนโธไซยานิน ซึ่งทำให้ผลไม้มีสีสันสดใส การศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นว่าสารสกัดบลูเบอร์รี่สามารถปรับปรุงการทำงานของสมอง เพิ่มความจำ และสนับสนุนสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดโดยการลดความดันโลหิตและระดับคอเลสเตอรอล


สารสกัดสตรอว์เบอร์รี่

สารสกัดสตรอว์เบอร์รี่มีวิตามินซีสูง มีคุณสมบัติช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและบำรุงผิวพรรณ นอกจากนี้ยังมีกรดเอลลาจิกซึ่งมีคุณสมบัติต่อต้านมะเร็ง นอกจากนี้ สารสกัดสตรอว์เบอร์รี่ยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด จึงเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยเบาหวาน


สาร สกัดราสเบอร์รี่

สารสกัดราสเบอร์รี่กำลังได้รับความสนใจเนื่องจากมีประโยชน์ในการควบคุมน้ำหนัก สารสกัดจากราสเบอร์รี่มีคีโตนซึ่งอาจช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันและลดความอยากอาหาร นอกจากนี้ สารสกัดราสเบอร์รี่ยังมีไฟเบอร์สูงซึ่งส่งเสริมสุขภาพระบบย่อยอาหาร


สารสกัดจากแบล็กเบอร์รี่

แบล็กเบอร์รี่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ โดยเฉพาะวิตามินเค ซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพกระดูก สารสกัดจากแบล็กเบอร์รี่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีคุณสมบัติต้านการอักเสบ และอาจช่วยปรับปรุงสุขภาพลำไส้ได้เนื่องจากคุณสมบัติพรีไบโอติก


เทคโนโลยีการสกัดที่เป็นนวัตกรรม

การสกัดสารประกอบจากผลเบอร์รี่ได้รับการพัฒนาอย่างมากด้วยการถือกำเนิดของเทคโนโลยีใหม่ๆ วิธีการต่างๆ เช่น การสกัดด้วยคาร์บอนไดออกไซด์เหนือวิกฤตและการสกัดด้วยคลื่นอัลตราซาวนด์ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพของสารสกัดจากผลเบอร์รี่ เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้สามารถเก็บรักษาสารประกอบที่ละเอียดอ่อนได้ในขณะที่เพิ่มผลผลิตสูงสุด ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การประยุกต์ใช้สารสกัดจากผลเบอร์รี่ในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
สารสกัดจากผลเบอร์รี่ถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพต่างๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อาหารเพื่อสุขภาพ และสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ความหลากหลายของสารสกัดจากผลเบอร์รี่ทำให้สารสกัดจากผลเบอร์รี่กลายเป็นส่วนผสมที่น่าสนใจสำหรับผู้ผลิตที่ต้องการเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้กับผลิตภัณฑ์ของตน

การใช้สารสกัดจากผลเบอร์รี่อย่างสร้างสรรค์เป็นโอกาสที่ดีในการปรับปรุงสุขภาพและความสมบูรณ์ของร่างกาย ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่อุดมสมบูรณ์และคุณสมบัติในการปกป้อง สารสกัดเหล่านี้จึงไม่เพียงแต่เป็นกระแสเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนเสริมอันมีค่าสำหรับวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีอีกด้วย ขณะที่การวิจัยยังคงเปิดเผยประโยชน์ของผลเบอร์รี่ การนำสารสกัดเหล่านี้มาใช้ในชีวิตประจำวันสามารถช่วยให้มีผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่ดีขึ้นและความเป็นอยู่โดยรวมที่ดีขึ้นได้

12
motor expo 2024: Lamborghini ทุบสถิติผลประกอบการ 9 เดือนแรกปี 2567 หลังเปิดตัวรถยนต์ใหม่สามรุ่นในช่วง 18 เดือน ดันยอดขายทะลุเป้าสูงสุดเป็นประวัติการ

ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี (Automobili Lamborghini) เผยตัวเลขผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปีสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ถือเป็นผลการดำเนินงานที่ดีที่สุดของบริษัท ทั้งในด้านจำนวนการส่งมอบรถยนต์ ตัวเลขรายได้ และกำไรจากการดำเนินงาน โดยมีการส่งมอบรถยนต์รวม 8,411 คัน (เพิ่มขึ้น 8.6% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566) ทำรายได้ที่ 2,434 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 20.1% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา และสามารถทำกำไรจากการดำเนินงานได้ที่ 678 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 9.8% จากปี 2566

มร.สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลัมโบร์กินี กล่าวว่า “ประสิทธิภาพการดำเนินงานขั้นสูงสุดที่ปรากฏนั้น เป็นผลมาจากการตัดสินใจทำสิ่งใหม่ที่ยังไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของ ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี นั่นคือเราได้เปิดตัวรถยนต์ใหม่ถึง 3 รุ่นในเวลาเพียง 18 เดือน ปิดท้ายด้วยความสำเร็จครั้งสำคัญจากการนำเสนอซูเปอร์คาร์ปลั๊กอินไฮบริดที่สมบูรณ์แบบจากรถยนต์ Lamborghini Temerario ทำให้นี่เป็นช่วงเวลาที่ต้องจับตามองมากที่สุดสำหรับบริษัท ในการเน้นย้ำถึงความสำคัญและผลกระทบจากเทรนด์การเปลี่ยนแปลงในโลกยานยนต์ที่เรากำลังเผชิญอยู่”

มร.เปาโล โพมา กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี กล่าวว่า “ผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี สะท้อนการดำเนินการตามกลยุทธ์ของเราได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเราสามารถยกระดับขีดความสามารถในการสร้างผลกำไรได้อย่างโดดเด่นแม้จะอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางการค้าที่ท้าทาย ซึ่งผลประกอบการไตรมาส 3 ยังทำให้เราสามารถคาดหวังได้ว่าผลประกอบการรวมของปีนี้ที่จะดีขึ้นอีกครั้ง และช่วยตอกย้ำตำแหน่งทางการตลาดที่เข้มแข็งของเราในฐานะแบรนด์ที่ทำกำไรสูงสุดในกลุ่มสินค้าลักซ์ชัวรีได้อีกครั้งในปีนี้”

ด้วยจำนวนคำสั่งซื้อมหาศาลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่ารถยนต์ทุกรุ่นของออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี ยังคงเป็นที่ต้องการสูง โดยระยะเวลารอคอยของรุ่น Revuelto  เพียงรุ่นเดียวก็นานเกิน 2 ปี ในขณะที่การผลิตรุ่น Urus SE ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา คำสั่งซื้อก็ครอบคลุมโควต้าการผลิตปี 2568 ทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนรุ่น Temerario ใหม่ซึ่งเป็นดาวเด่นประจำไตรมาสที่เปิดตัวในงาน Monterey Car Week ก็มีคำสั่งซื้ออย่างเป็นทางการทันทีในเดือนกันยายน พร้อมกระแสตอบรับเชิงบวกจากสาธารณชนอย่างล้นหลาม
 
หลักชัยแห่งความสำเร็จนี้ได้เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งทางการตลาดของบริษัทในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับหรู และวางรากฐานอันมั่นคงให้กับการพัฒนากลยุทธ์การเติบโตและนวัตกรรมใหม่ ๆ ในอนาคตต่อไป

13
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: จมน้ำ (Drowning)

จมน้ำ เป็นภาวะที่พบได้บ่อยและมีความรุนแรง มักจะทำให้ตายในเวลาเพียงไม่กี่นาที

สาเหตุ

มักเกิดกับเด็กเล็กและผู้ที่ว่ายน้ำไม่เป็น อาจเกิดจากการตกน้ำทั้งในแหล่งน้ำธรรมชาติ และภาชนะกักเก็บน้ำภายในบ้าน จมน้ำจากอุบัติเหตุ เช่น เรือคว่ำ เรือชน เมาเหล้า โรคลมชัก โรคหัวใจวาย เป็นลม เป็นต้น

อาการ

ผู้ที่จมน้ำมักจะมีอาการหมดสติ และหยุดหายใจ บางรายอาจมีภาวะหัวใจหยุดเต้น (คลำชีพจรไม่ได้) ร่วมด้วย

ถ้าไม่ถึงกับหมดสติ ก็อาจมีอาการปวดศีรษะ เจ็บหน้าอก อาเจียน กระวนกระวาย หรือไอมีฟองเลือดเรื่อ ๆ (ซึ่งแสดงว่ามีภาวะปอดบวมน้ำ)

บางรายอาจตรวจพบภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันต่ำหรือภาวะช็อก


ภาวะแทรกซ้อน

ผู้ที่จมน้ำมักจะตายเนื่องจากขาดอากาศหายใจเพราะสำลักน้ำ บางรายอาจตายเนื่องจากภาวะเกร็งของกล่องเสียง (laryngospasm) ทำให้หายใจไม่ได้ สาเหตุเหล่านี้มักจะทำให้ผู้ที่จมน้ำตายภายใน 5-10 นาที

ผู้ที่จมน้ำถึงแม้จะรอดมาได้ในระยะแรก แต่ก็อาจจะตายเนื่องจากภาวะแทรกซ้อนในภายหลังได้ เช่น ปอดอักเสบ การเปลี่ยนแปลงของระดับเกลือแร่ในร่างกาย ภาวะเลือดเป็นกรด ภาวะปอดบวมน้ำ (pulmonary edema) ภาวะปอดไม่ทำงาน (ปอดล้ม ปอดวาย) เป็นต้น

ในรายที่ขาดอากาศหายใจเป็นเวลานาน อาจเป็นสมองพิการได้

ภาวะเหล่านี้มักเกิดขึ้นไม่ต่างกันมากนัก ทั้งในพวกที่จมน้ำจืด (แม่น้ำ ลำคลอง บ่อ สระน้ำ) และพวกที่จมน้ำทะเล รวมทั้งอาการแสดงและการรักษาก็ไม่ต่างกันมาก

ข้อแตกต่าง คือ น้ำจืดจะมีความเข้มข้นน้อยกว่าเลือด (พลาสมา) ดังนั้น ถ้ามีน้ำอยู่ในปอดจำนวนมากก็จะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดทันที ทำให้ปริมาตรของเลือดที่ไหลเวียนเพิ่มจากเดิม (hypervolemia) มีผลทำให้ระดับเกลือแร่ (เช่น โซเดียม โพแทสเซียม) ในเลือดลดลง ซึ่งอาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะหรือหัวใจวายได้ นอกจากนี้ ยังอาจเกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตก (hemolysis) ได้อีกด้วย

ส่วนน้ำทะเลจะมีความเข้มข้นมากกว่าเลือด น้ำทะเลที่สำลักอยู่ในปอดจะดูดซึมน้ำเลือด (พลาสมา) จากกระแสเลือดเข้าไปในปอด ทำให้เกิดภาวะปอดบวมน้ำ (pulmonary edema) ระบบไหลเวียนมีปริมาตรลดลง (hypovolemia) และระดับเกลือแร่ในเลือดเพิ่มสูงขึ้น ทำให้หัวใจเต้นผิดปกติหัวใจวาย หรือเกิดภาวะช็อกได้

แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จมน้ำมักตายเนื่องจากขาดอากาศหายใจมากกว่าการเปลี่ยนแปลงของระดับเกลือแร่และปริมาตรของเลือด


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ

ในรายที่สงสัยมีภาวะแทรกซ้อน แพทย์จะทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น ตรวจเลือด เอกซเรย์ เป็นต้น


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะรับผู้ป่วยไว้รักษาในโรงพยาบาลทุกราย ไม่ว่าจะมีอาการหนักเบาเพียงใด เพื่อเฝ้าสังเกตอาการ และหาทางป้องกันและแก้ไขภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น

มักจะทำการเจาะเลือดตรวจระดับแก๊สในเลือด และตรวจหาความเข้มข้นของเกลือแร่ เอกซเรย์ดูว่ามีการอักเสบของปอดหรือปอดแฟบหรือไม่ หรือตรวจพิเศษอื่น ๆ

การรักษา ให้ออกซิเจน ต่อเครื่องช่วยหายใจ ให้น้ำเกลือ พลาสมาหรือเลือด

ถ้ามีภาวะหัวใจวายก็จะให้ยาขับปัสสาวะและยารักษาโรคหัวใจ (เช่น ไดจอกซิน)

ถ้ามีปอดอักเสบ จะให้ยาปฏิชีวนะและสเตียรอยด์


การดูแลตนเอง

เมื่อพบผู้ป่วยจมน้ำ ควรทำการปฐมพยาบาล และรีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที


การปฐมพยาบาล

การช่วยเหลือผู้ที่จมน้ำอย่างถูกต้องก่อนส่งไปโรงพยาบาล มีผลต่อความเป็นความตายของผู้ป่วยมาก ควรแนะนำวิธีปฐมพยาบาลดังนี้

1. ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจ ให้ทำการเป่าปากช่วยหายใจทันที อย่ามัวเสียเวลาในการพยายามนำน้ำออกจากปอดของผู้ป่วย (เช่น การจับแบกพาดบ่า) หรือทำการผายปอดด้วยวิธีอื่น เพราะจะไม่ทันการและไม่ได้ผล

ถ้าเป็นไปได้ ควรลงมือเป่าปาก ตั้งแต่ก่อนขึ้นฝั่ง เช่น หลังจากพาขึ้นบนเรือ หรือพาเข้าที่ตื้น ๆ ได้เเล้ว

เมื่อขึ้นบนฝั่งแล้ว ให้ทำการผายปอดด้วยการเป่าปากต่อไป จนกว่าผู้ป่วยจะหายใจได้เอง หรือพาไปส่งถึงโรงพยาบาลแล้ว

วิธีการเป่าปากโดยละเอียด อ่านเพิ่มเติมใน "อาการหมดสติ"

เมื่อเริ่มเป่าปากสักพัก ถ้าหากรู้สึกว่าลมเข้าปอดได้ไม่เต็มที่เนื่องจากมีน้ำอยู่เต็มท้อง อาจจับผู้ป่วยนอนคว่ำแล้วใช้มือ 2 ข้างวางอยู่ใต้ท้องผู้ป่วย ยกท้องผู้ป่วยขึ้น จะช่วยไล่น้ำออกจากท้องให้ไหลออกทางปากได้ แล้วจับผู้ป่วยพลิกหงายและทำการเป่าปากต่อไป

2. ถ้าคลำชีพจรไม่ได้ หรือหัวใจหยุดเต้น ให้ทำการนวดหัวใจทันที (วิธีนวดหัวใจอ่านเพิ่มเติมใน "อาการหมดสติ")

3. ถ้าผู้ป่วยยังหายใจได้เอง หรือช่วยเหลือจนหายใจได้แล้ว ควรจับผู้ป่วยนอนตะแคงข้าง และศีรษะหงายไปข้างหลัง เพื่อให้น้ำไหลออกทางปาก ใช้ผ้าห่มคลุมผู้ป่วยเพื่อให้เกิดความอบอุ่น อย่าให้ผู้ป่วยกินอาหารและดื่มน้ำทางปาก

4. ควรส่งผู้ป่วยที่จมน้ำไม่ว่าจะมีอาการหนักเบาเพียงใด ไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลทุกราย

ในรายที่หมดสติและหยุดหายใจ ควรผายปอดด้วยวิธีเป่าปากไปตลอดทาง อย่าเพิ่งรู้สึกหมดหวังแล้วหยุดให้การช่วยเหลือ (เคยพบว่าการเป่าปากนานเป็นชั่วโมง ๆ สามารถช่วยให้ผู้ป่วยรอดและหายขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าจมน้ำที่มีความเย็น อุณหภูมิต่ำกว่า 70 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 21.1 องศาเซลเซียส)

การป้องกัน

1. ระวังอย่าให้เด็กเล็กเล่นน้ำหรืออยู่ในบริเวณใกล้กับน้ำ เช่น แม่น้ำลำคลอง บ่อน้ำ สระน้ำ รวมทั้งโอ่งน้ำ ถังใส่น้ำ ภาชนะกักเก็บน้ำภายในบ้านตามลำพัง

2. ควรส่งเสริมให้เด็กฝึกว่ายน้ำให้เป็น

3. เวลาลงเรือหรือออกทะเล ควรเตรียมชูชีพไว้ให้พร้อมเสมอ

4. ผู้ที่เมาเหล้า หรือเป็นโรคลมชัก ห้ามลงเล่นน้ำ

ข้อแนะนำ

1. วิธีผายปอดแก่ผู้ป่วยจมน้ำที่แนะนำในปัจจุบัน คือ วิธีการเป่าปาก และให้ลงมือทำให้เร็วที่สุด อย่าเสียเวลาในการจับแบกพาดบ่าเพื่อเอาน้ำออกจากปอดดังที่เคยแนะนำกันในสมัยก่อน

2. ผู้ป่วยที่จมน้ำทุกรายไม่ว่าจะหมดสติหรือหยุดหายใจหรือไม่ก็ตาม ควรพักรักษาตัวในโรงพยาบาลอย่างน้อย 24-72 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในเวลาต่อมา

14
ชุดปฏิบัติธรรม ชุดแม่ชี เราเป็น โรงงานผลิตโดยตรง
ตัดเย็บปราณีต ทรงสวย เรียบหรู ดูสง่างดงาม
ผลิตจาก ผ้าฝ้ายแท้ 100% เกรดพรีเมียม

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดขาวไปวัด ชุดแม่ชี
– ราคาแยกรายชิ้น –
ทอย้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นดี
พร้อมส่งทุกไซส์
(กรณีสั่งตัดไซส์พิเศษ รอผลิต 7-10 วัน)
จัดส่งฟรี‼ เมื่อลูกค้าโอนชำระ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง (+ตัวละ 10.-)

รับตัดชุดขาวไซส์ใหญ่พิเศษ
หมดกังวล หาไซส์ไม่ได้ ทางร้านเป็นโรงงานผลิตโดยตรง
สามารถสั่งตัดชุดได้ตามความต้องการ รอผลิต 7-10 วันทำการ

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่
จากผ้าฝ้ายแท้ 100%
 นุ่มสบาย ไม่ร้อน ไม่ระคายคือง
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อผ้า
การตัดเย็บ รวมไปถึงการจัดส่งแบบปกติ
และจัดส่งเร่งด่วน (Kerry EMS Grab)

ชุดขาวปฎิบัติธรรม ชุดขาวหญิง ชุดแม่ชี คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ชุดปฎิบัติธรรมชาย คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ



15
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
"NEWTECH INSULATION" ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
"เพราะเรา...เข้าใจเรื่องเสียง"


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


หน้า: [1] 2 3 ... 14
Tage: ลงประกาศฟรี ติดอันดับ Google โฆษณาฟรี ประกาศฟรี ขายฟรี ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายที่ดินฟรี ลงประกาศขายคอนโดฟรี ขายรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สถานที่ท่องเที่ยว ลงโฆษณาฟรี google